โวยรัฐบาลตัดงบท้องถิ่น ‘แก้ไฟป่า’ ฉะ รมว.ทส. มัวทำอะไรอยู่ ไม่ปกป้องคนทำงานสิ่งแวดล้อม
‘ภัทรพงษ์’ ถาม ‘รัฐบาล’ ตัดงบขนาดนี้ จะแก้ไฟป่าได้อย่างไร หลัง โอนภารกิจจาก ‘กรมป่าไม้’ ไป ‘อปท.’ จี้ แก้ประกาศ ‘คกก. กระจายอำนาจ’ เพื่อปลดล็อกท้องถิ่น ซัด ‘รมว.ทรัพยากรฯ หยุดปล่อย ขรก.ทำงาน แล้วมาเคลมทีหลัง โดยไม่มีข้อมูล
30 พฤษภาคม 2568 – เวลา 19.17 น. นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน อภิปรายว่า ตนดูงบประมาณปี 2569 ในเรื่องของไฟป่าด้วยความตั้งใจ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงจัดงบมาน้อยเหมือนเดิม ทั้งที่รัฐบาลได้เห็นปัญหาแล้วงบประมาณท้องถิ่นดับไฟป่าของอบต.1,960 แห่ง ขอไปกว่า 1,447 ล้านบาท แต่ได้งบไปแค่ 122 ล้านบาท ใน 3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลตัดงบท้องถิ่นตลอด ทั้งที่โอนภารกิจดับไฟป่าในเขตป่าสงวนให้ท้องถิ่นไปแล้ว ในส่วนของกรมป่าไม้ที่ไม่มีภารกิจแล้วก็ได้งบไปแค่ 127 ล้านจากที่ขอไป 317 ล้าน รวมแล้วเขตป่าสงวนทั้งประเทศ มีงบป้องกันและควบคุมไฟป่า เพียงแค่ 249 ล้านบาทตนสงสัยว่างบเท่านี้ดับไฟป่าได้อย่างไร อีกทั้งงบไฟป่าในเขตป่าอนุรักษ์ของอุทยาน ที่ของบไป2,100 ล้านบาท แต่ได้งบ 1,090 ล้านบาท ดูผิวเผินเหมือนจะดีขึ้น แต่มีการตัดงบที่สำคัญออกไปมาก ทั้งโดรนตรวจจับความร้อน จนทางอุทยานเค้าต้องใช้เงินรายได้อุทยานไปซื้อเองเครื่องเป่าลม อุปกรณ์หลักในภารกิจนี้ก็ถูกตัดไป 200 กว่าเครื่อง ยังดีที่รอบนี้ที่โดรนขนส่งได้รับการอนุมัติมา 15 ล้านบาท แต่ที่น่าตกใจคืองบประมาณน้ำมันเชื้อเพลิงโดนตัดจาก 40 ล้านเหลือ 16 ล้าน และที่ตกใจที่สุดคือ งบประมาณเสื้อดับไฟป่า ที่ขอไป 22 ล้าน ถูกตัดงบทั้งหมดไม่เหลือเลย
“ท่านจะให้เจ้าหน้าที่ใส่เสื้อผ้าอะไรไปดับไฟครับ ผมตกใจและไม่เข้าใจจริงๆ ที่ผ่านมารัฐบาลทำงานกันยังไง ทำไมถึงจัดงบออกมาแบบนี้ รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ท่านทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ปกป้องงบประมาณเหล่านี้ให้คนที่ทำงานปกป้องสิ่งแวดล้อมให้กับประเทศ งบประมาณที่ท่านเอาไปทำไวนิลติดรูปตัวเองหน้าป่าไม้ อุทยา
น มันเป็นงบก้อนไหน ผมจะได้ตัดงบก้อนนั้นออก ท่านไม่ค่อยทำงาน ไม่เป็นไรครับ วันนี้ผมจะบอกเองอีกครั้งว่าการจัดสรรงบประมาณด้านไฟป่าต้องทำยังไง”นายภัทรพงษ์กล่าว
นายภัทรพงษ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของป่าสงวน ที่ปัจจุบันถูกถ่ายโอนภารกิจจากกรมป่าไม้ไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เราเริ่มจากการจัดสรรงบประมาณตามตัวเลขที่ควรจะได้คือ ขนาดเล็ก 6 แสนบาท ขนาดกลาง 1.2 ล้านบาท และขนาดใหญ่ 1.8 ล้านบาท ต้นปีที่ผ่านมา เราทำทีมส้มสู้ไฟเช่นกันครอบคลุมหลายพื้นที่ ด้วยงบประมาณเท่านี้ เหมาะสมและเพียงพอ แต่สิ่งที่ต้องแก้ไขต่อจากงบประมาณคือประกาศคณะกรรมการกระจายอำนาจ ที่ตอนนี้ล็อคสเป็คท้องถิ่นไว้หมด งบประมาณต้องถูกใช้กับอะไรบ้าง กี่บาท กี่ชิ้น ล็อคไว้หมด เราสามารถปลดล็อคตรงนี้ง่ายมากเพียงแค่ประชุมคณะกรรมการกระจายอำนาจแห่งชาติ ก็สามารถปลดล็อคได้ทันที ให้อิสระท้องถิ่นในการใช้งบประมาณซื้อโดรนตรวจจับความร้อน มอเตอร์ไซค์วิบาก เครื่องวัดพิกัด GPS รวมถึงซื้ออุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินให้กับคนดับไฟจากเงินอุดหนุนก้อนนี้ได้ และจัดสรรงบประมาณให้กับกรมป่าไม้และกรมอุทยานในการอบรมท้องถิ่นแต่เนิ่นๆ ในระดับพื้นที่ของตนต้องกระจาย node ศูนย์ฝึกให้ครอบคลุมมากที่สุด เพราะเราต้องเน้นที่ผลของการฝึก ให้ท้องถิ่นสามารถนำไปปรับกับพื้นที่ของตนเองแล้วทำงานได้จริงในส่วนของภาพรวมการป้องกันและควบคุมไฟป่า ทั้งเขตป่าอนุรักษ์และป่าสงวน
งบประมาณส่วนแรกที่เราต้องจัดสรรให้กับทีมดับไฟป่า คือ อุปกรณ์ปฐมพยาบาลฉุกเฉิน สิ่งที่ยังขาด และต้องเติมเข้าให้กับหน่วยดับไฟป่า คือ เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าหรือว่า AED หนึ่งเครื่องต่อหนึ่งหน่วยดับไฟ รวมถึงออกซิเจนกระป๋อง ที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ต้องอยู่กับควันต่อเนื่องเป็นเวลานาน และเราจำเป็นตั้งงบประมาณด้านบุคลากรให้เพียงพอ เพื่อให้มีเจ้าหน้าที่ที่มีสัญญา ทำงานตลอดปีมากขึ้น แก้ปัญหาการขาดความต่อเนื่องของคนดับไฟป่าที่ทุกวันนี้เราจ้างเจ้าหน้าที่ด้วยสัญญา 4 เดือน 6 เดือน ปีนี้เราฝึกเจ้าหน้าที่ได้แล้ว ดับไฟเก่งแล้ว แต่หมดสัญญาสี่เดือนก็จบ เค้าก็ต้องไปหาอาชีพอื่นแทน ปีหน้ามา คนเดิมก็ไม่อยู่แล้ว เราก็ต้องมาวนฝึกกันใหม่ ซ้ำๆแบบนี้ทุกปี
นายภัทรพงษ์กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในภารกิจไฟป่า คือชีวิตและสวัสดิภาพของคนดับไฟ เพราะฉะนั้น จำนวนคนในทีมนั้นสำคัญมาก ขั้นต่ำต่อทีมต้องมีอย่างน้อย 20 คน เพื่อผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน คนที่มีอาการล้าสะสมให้ได้พัก ตรวจวัดความดันก่อนปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง และมีอุปกรณ์เตรียมรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่เพียงพอ เราต้องไม่เห็นข่าวเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า เสียชีวิต หลังปฏิบัติหน้าที่ เพราะอาการล้าสะสม ทำให้หมดสติขณะปฏิบัติหน้าที่อีก ฉะนั้นการจัดสรรงบประมาณจากรัฐมนตรีจึงมีความสำคัญมากและเราต้องช่วยลดภาระให้เจ้าหน้าที่ดับไฟของเรา โดยการจัดสรรงบโดรนตรวจจับความร้อนพร้อมคนขับ ให้ทีมละ 1 ล้านบาทถือว่าคุ้มค่างบประมาณมาก ทั้งในการลาดตระเวณเพื่อป้องกันการจุดไฟป่า
นายภัทรพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องเข้าใจกับปัญหานี้ให้ได้การลงพื้นที่ทุกครั้งต้องลงให้ถึงระดับปฏิบัติการให้รู้ชัดว่าปัญหาคืออะไร ยังขาดอะไร อย่าลงพื้นที่ไปแค่กล่าวเปิดงาน ยืนยิ้มแล้วกลับบ้าน ถ้ารัฐบาลทำงานกัน จริงๆจะสะท้อนออกมาจากตัวเลขงบประมาณที่ได้จัดสรรให้กับหน่วยงาน ไม่มีทางออกมาเป็นแบบนี้ ที่ไฟป่าถูกตัดงบไปกว่า 2000 ล้าน ฐานข้อมูลต่างๆก็ยังไม่ได้บูรณาการมาใช้แก้ปัญหาฝุ่นพิษจากแต่ละแหล่งกำเนิดจริงจังกับปัญหานี้จริงๆสักที อย่ามัวแต่สั่งการไปลอยๆ ปัญหาหมด ก็ปล่อยไป โดยไม่ทบทวนข้อสั่งการตัวเอง
“รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หยุดการทำงานแบบปล่อยข้าราชการทำงาน แล้วตัวเองมาเคลมผลงานโดยไม่มีข้อมูลได้แล้ว อย่างเอ็มโอยูกับกัมพูชาที่ท่านเคลมผลงานเมื่อเดือนก่อน รู้บ้างไหมว่าปีที่แล้ว กระทรวงมหาดไทยก็เซ็นเอ็มโอยูแบบนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่เกิดผลอะไรเลย มาทำงานจริงๆ แล้วท่านจะรู้การจัดสรรงบประมาณด้านสิ่งแวดล้อมแบบนี้ ประชาชนตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย นอกจากรัฐมนตรีกระทรวงนี้ไม่ทำงาน” นายภัทรพงษ์กล่าว
The post โวยรัฐบาลตัดงบท้องถิ่น ‘แก้ไฟป่า’ ฉะ รมว.ทส. มัวทำอะไรอยู่ ไม่ปกป้องคนทำงานสิ่งแวดล้อม appeared first on .