ข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาส่อเค้าวุ่นจากคำพูดขู่ของทรัมป์
กระบวนการหยุดยิงในฉนวนกาซาดูเปราะบางมากขึ้น หลังจากกลุ่มฮามาสกล่าวว่าคำขู่ล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ข้อตกลงกับอิสราเอลซับซ้อนยิ่งขึ้น แม้ดำเนินการอย่างราบรื่นมาแล้วเกือบเดือน
เต็นท์พักพิงของชาวปาเลสไตน์ที่พลัดถิ่นฐาน ถูกตั้งขึ้นในสนามหญ้าของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของกาซาซิตี เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ท่ามกลางข้อตกลงหยุดยิงในสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส (Photo by BASHAR TALEB / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 กล่าวว่า ข้อตกลงหยุดยิงซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม ช่วยหยุดการสู้รบในฉนวนกาซาที่กินเวลานานกว่า 15 เดือนได้เป็นส่วนใหญ่ แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมากลับเกิดความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจนมีการขู่หยุดแลกเปลี่ยนตัวประกัน
สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนมากขึ้น เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐดันขู่กลับว่า “สถานการณ์นรกแตก” จะเกิดขึ้น หากฮามาสไม่สามารถปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลทั้งหมดภายในสุดสัปดาห์นี้
คาดการณ์ว่าสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ์ที่ 2 แห่งจอร์แดนจะหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาหารือระหว่างการพบปะกับทรัมป์ในกรุงวอชิงตัน เพื่อกอบกู้สถานการณ์ที่ส่อเค้ากลับมารุนแรงอีกครั้ง
เมื่อเดือนที่แล้ว ทรัมป์เพิ่งเสนอให้ยึดครองฉนวนกาซาและขับไล่ประชากรกว่า 2 ล้านคนออกไป หลังจากนั้นกระแสต่อต้านรุนแรงก็เริ่มระอุขึ้น
“เท่าที่ผมทราบ หากตัวประกันทั้งหมดไม่ได้ถูกส่งกลับภายในเวลาเที่ยงวันเสาร์ซึ่งผมคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม ผมคงบอกว่าให้ยกเลิกข้อตกลงนี้และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามนั้น” ทรัมป์กล่าวเมื่อวันจันทร์
ทั้งนี้ ข้อตกลงหยุดยิงมีเงื่อนไขให้ปล่อยตัวตัวประกันอิสราเอลแลกกับนักโทษปาเลสไตน์ เป็นระยะๆ ตลอด 42 วันของข้อตกลงระยะแรก
ซามี อาบู ซูห์รี ผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาสกล่าวว่าคำพูดของทรัมป์ยิ่งทำให้เรื่องซับซ้อนมากขึ้น
“ทรัมป์ต้องจำไว้ว่ามีข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายต้องเคารพ และนี่เป็นวิธีเดียวที่จะส่งตัวนักโทษ (ตัวประกัน) กลับคืนมาได้ ซึ่งคำพูดขู่เข็ญไม่มีค่าอะไรเลย แต่กลับจะทำให้เรื่องราวซับซ้อนมากขึ้น” เขากล่าวกับเอเอฟพี
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาสอีกคนหนึ่งกล่าวว่าทรัมป์ควรกดดันเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ให้ปฏิบัติตามข้อตกลง ไม่ใช่ผัดวันประกันพรุ่งและขัดขวางการจัดหาความช่วยเหลือ
“ฮามาสและกลุ่มต่อต้านมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งหมดอย่างแม่นยำเพื่อให้การหยุดยิงประสบความสำเร็จและปกป้องประชาชนของเรา” เขากล่าว
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้กลุ่มฮามาสดำเนินการปล่อยตัวตัวประกันที่กำหนดไว้ในวันเสาร์
“เราต้องหลีกเลี่ยงการกลับมาสู้รบในฉนวนกาซาไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ไม่เช่นนั้นอาจนำไปสู่โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่” เขากล่าว
คำขู่ของทรัมป์เกิดขึ้นหลังจากกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาส (กองกำลังติดอาวุธเอซเซดีน อัล-กัสซัม) ประกาศว่าการปล่อยตัวตัวประกันที่กำหนดไว้ในวันเสาร์นี้จะถูกเลื่อนออกไป
กองกำลังดังกล่าวกล่าวหาว่าอิสราเอลไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งรวมถึงการเปิดทางให้ความช่วยเหลือเข้าถึงผู้คนในกาซา และอ้างถึงการเสียชีวิตของชาวกาซา 3 รายเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม กลุ่มดังกล่าวกล่าวว่า “ประตูยังคงเปิดอยู่เสมอ เพื่อให้การแลกเปลี่ยนนักโทษดำเนินต่อไปตามแผน แต่อิสราเอลต้องปฏิบัติตาม”
อิสราเอล คาตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ระบุว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มฮามาสเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างสมบูรณ์ โดยส่งสัญญาณว่าการสู้รบอาจกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง
คาตซ์กล่าวว่า “ผมได้สั่งการให้กองทัพอิสราเอลเตรียมพร้อมในระดับสูงสุดสำหรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในกาซา”
ผู้เจรจาเตรียมที่จะพบกันที่กาตาร์เพื่อหารือเกี่ยวกับการบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งยังไม่มีข้อสรุป
การเจรจาระยะที่สองควรจะเริ่มขึ้นในวันที่ 16 ของการสงบศึก แต่อิสราเอลปฏิเสธที่จะส่งผู้เจรจาไปยังกรุงโดฮา
เนทันยาฮูยกย่องข้อเสนอของทรัมป์ในการขับไล่ชาวกาซาว่าเป็นดั่ง “การปฏิวัติ”
ข้อเสนอดังกล่าวซึ่งสหประชาชาติและผู้เชี่ยวชาญระบุว่าจะละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง
ทรัมป์กล่าวว่าเขาอาจหยุดให้ความช่วยเหลือพันธมิตรของสหรัฐฯ อย่างจอร์แดนและอียิปต์ก็ได้ หากพวกเขาปฏิเสธที่จะรับชาวปาเลสไตน์ภายใต้แผนฉนวนกาซาที่ก่อให้เกิดข้อโต้แย้ง และคาดว่าเรื่องนี้จะถูกหยิบยกขึ้นมาหารือระหว่างการหารือกับกษัตริย์จอร์แดนในช่วงบ่ายวันอังคาร
อียิปต์ปฏิเสธอย่างแข็งขันต่อการประนีประนอมใดๆในสิทธิของชาวปาเลสไตน์ รวมถึงการอยู่ในดินแดนของตนเองต่อไป
ทรัมป์กล่าวกับฟ็อกซ์นิวส์ว่า ชาวปาเลสไตน์ไม่มีสิทธิ์ที่จะกลับไปยังกาซา
“ผมกำลังพูดถึงการสร้างที่อยู่ถาวรให้พวกเขา เพราะถ้าพวกเขาต้องกลับมาตอนนี้ คงต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะได้กลับมา เพราะที่นั่นไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัย” ผู้นำสหรัฐกล่าว
เมื่อถูกถามว่าชาวปาเลสไตน์มีสิทธิ์ที่จะกลับไปหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า “ไม่ พวกเขาจะไม่กลับ เพราะพวกเขาจะมีที่อยู่อาศัยที่ดีกว่ามาก”
สำหรับชาวปาเลสไตน์ ความพยายามใดๆ ที่จะบังคับให้พวกเขาออกจากฉนวนกาซาอาจทำให้รำลึกถึงความทรงจำอันมืดมนของสิ่งที่โลกอาหรับเรียกว่า “นัคบะ (ภัยพิบัติ)” ซึ่งหมายถึงการอพยพครั้งใหญ่ของชาวปาเลสไตน์ในระหว่างการก่อตั้งประเทศอิสราเอลในปี 1948.
The post ข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาส่อเค้าวุ่นจากคำพูดขู่ของทรัมป์ appeared first on .