การชุมนุมต่อต้านทรัมป์ดึงดูดผู้คนนับพันทั่วสหรัฐฯ

ผู้คนหลายพันคนรวมตัวชุมนุมในกรุงวอชิงตันและเมืองอื่นๆ ทั่วสหรัฐฯ และต่างประเทศ เพื่อต่อต้านนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ นับเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เขากลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

ผู้คนจำนวนมากในการชุมนุมชื่อ “Hands Off” เพื่อประท้วงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ใกล้กับอนุสาวรีย์วอชิงตันในเนชั่นแนล มอลล์ เมื่อวันที่ 5 เมษายน (Photo by Anna Moneymaker / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / Getty Images via AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2568 กล่าวว่า ผู้คนหลายพันคนมารวมตัวกันที่เนชั่นแนล มอลล์ ในกรุงวอชิงตันและเมืองอื่นๆ ทั่วสหรัฐฯ เช่นเดียวกับหลายเมืองในต่างประเทศ เพื่อต่อต้านนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นการประท้วงที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เขากลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

ผู้ประท้วงถือป้ายที่มีข้อความว่า “ไม่ใช่ประธานาธิบดีของฉัน!”, “ลัทธิฟาสซิสต์มาถึงแล้ว”, “อย่าแตะต้องระบบประกันสังคมของเรา” และ “ตื่นขึ้นมาดมกลิ่นรัฐประหาร”

ผู้ประท้วงหญิงคนหนึ่งกล่าวว่า เธอรู้สึกผิดหวังเมื่อเห็นรัฐบาลทรัมป์กำลังทำลายสถาบันประชาธิปไตยที่มีมายาวนานของอเมริกา

“น่ากังวลอย่างยิ่งเมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับรัฐบาลของเรา ทั้งการตรวจสอบและถ่วงดุลทั้งหมดที่บัญญัติไว้ถูกละเมิดไปหมดสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อมหรือสิทธิส่วนบุคคล” ผู้ประท้วงกล่าว

ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ความขุ่นเคืองแพร่กระจายไปทั่วโลก และกระแสต่อต้านยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเขาประกาศขึ้นภาษีศุลกากรกับประเทศต่างๆ มากมาย จนทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงในเมืองหลวงหลายแห่งของยุโรปด้วยเช่นกัน

“สิ่งที่เกิดขึ้นในอเมริกาเป็นปัญหาของทุกคน” ผู้ประท้วงชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ในอังกฤษกล่าวกับเอเอฟพีในการชุมนุมที่ลอนดอน และเสริมว่า “มันเป็นความบ้าคลั่งทางเศรษฐกิจ เขาจะผลักดันให้เราเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก”

และในเบอร์ลิน ผู้ประท้วงหญิงวัย 70 ​​ปีกล่าวว่า “ทรัมป์สร้างวิกฤตทางรัฐธรรมนูญ… ผู้ชายคนนี้เป็นคนบ้า!”

ในสหรัฐฯ กลุ่มพันธมิตรเฉพาะกิจของฝ่ายซ้ายหลายสิบกลุ่ม เช่น MoveOn และ Women’s March ได้จัดงานชุมนุมชื่อ “Hands Off” ในกว่า 1,000 เมืองและในทุกเขตเลือกตั้งของรัฐสภา ภายใต้หัวข้อว่า “การแย่งชิงอำนาจที่โจ่งแจ้งที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ซึ่งนำโดยโดนัลด์ ทรัมป์และอีลอน มัสก์”

ทรัมป์ทำให้ชาวอเมริกันหลายคนไม่พอใจด้วยการเคลื่อนไหวอย่างก้าวร้าวเพื่อลดขนาดของรัฐบาล, บังคับใช้ค่านิยมอนุรักษนิยมของตนเองโดยฝ่ายเดียว และกดดันอย่างรุนแรงแม้กระทั่งประเทศที่เป็นมิตรในเรื่องพรมแดนและเงื่อนไขการค้า จนส่งผลให้ตลาดหุ้นตกต่ำ

“ผู้คนในสหรัฐฯ ไม่พอใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้นในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ขณะนี้” ผู้ประท้วงคนหนึ่งกล่าวกับเอเอฟพีในการชุมนุมที่นิวยอร์ก

ขณะที่สมาชิกเดโมแครตจำนวนมากโกรธแค้นที่พรรคของพวกเขาซึ่งเป็นกลุ่มเสียงข้างน้อยในทั้งสองสภา ดูเหมือนจะไม่สามารถต้านทานการเคลื่อนไหวที่ก้าวร้าวของทรัมป์ได้เลย

ผู้คนหลายพันคนมารวมตัวกันที่เนชั่นแนล มอลล์ ซึ่งอยู่ห่างจากทำเนียบขาวเพียงไม่กี่ช่วงตึก เพื่อฟังการปราศรัยของส.ส.จากเดโมแครตที่มุ่งโจมตีทรัมป์

การชุมนุมเมื่อวันเสาร์เป็นไปอย่างสงบเป็นส่วนใหญ่ บรรยากาศรื่นเริงยังคงดำเนินต่อไปในวันที่อากาศอบอุ่นในวอชิงตัน โดยผู้ประท้วงมีตั้งแต่ผู้สูงอายุไปจนถึงคู่รักหนุ่มสาวที่พาเด็กทารกมาร่วมงานด้วย

ผู้จัดงานชุมนุมในวอชิงตันคาดการณ์ว่ามีผู้เข้าร่วมราว 20,000 คน แต่หลังจากนั้นดูเหมือนจำนวนผู้เข้าร่วมจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ทรัมป์ยังคงเดินหน้าสร้างความปั่นป่วนในวอชิงตันและพื้นที่อื่นๆ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง และผลสำรวจล่าสุดระบุว่าคะแนนนิยมของเขาตกลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง

แม้ว่าทั่วโลกกำลังต่อต้านการขึ้นภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ของเขา และชาวอเมริกันจำนวนมากต่างก็ไม่พอใจ แต่ทำเนียบขาวกลับเพิกเฉยต่อการประท้วงดังกล่าว

ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันซึ่งยังคงได้รับความนิยมจากฐานเสียงของเขา ยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมลดละความพยายาม

“นโยบายของผมจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง” ทรัมป์กล่าวอย่างไม่ยี่หระต่อการประท้วงในประเทศและหลายพื้นที่ทั่วโลก.

The post การชุมนุมต่อต้านทรัมป์ดึงดูดผู้คนนับพันทั่วสหรัฐฯ appeared first on .