คาร์ดินัลเพรวอสต์ : พระสันตะปาปาองค์แรกของสหรัฐฯ ในพระนามว่า “เลโอที่ 14”

พระคาร์ดินัลโรเบิร์ต ฟรานซิส เพรวอสต์กลายเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกจากสหรัฐอเมริกา หลังจากที่พระคาร์ดินัลจากทั่วโลกเลือกพระองค์เป็นประมุขของชาวคาทอลิก 1,400 ล้านคน โดยเลือกนามพระสันตะปาปาว่า “เลโอที่ 14”

ควันสีขาวที่ลอยขึ้นจากปล่องไฟของโบสถ์น้อยซิสทีน ซึ่งส่งสัญญาณว่าคณะพระคาร์ดินัลได้เลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ได้แล้วจากการประชุมลับในนครวาติกัน เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม (Photo by Tiziana FABI / AFP)

คาร์ดินัลโรเบิร์ต ฟรานซิส เพรวอสต์ ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาองค์ที่ 267 แห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ภายใต้พระนามที่ทรงเลือกว่า “เลโอที่ 14” เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม (Photo by Alberto PIZZOLI / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2568 กล่าวว่า ในที่สุดควันขาวจากปล่องไฟของโบสถ์น้อยซิสทีนก็พวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าในวันที่สองของการลงคะแนนลับโดยคณะพระคาร์ดินัลเพื่อประกาศการเลือกสันตะปาปาพระองค์ใหม่ ขณะที่ระฆังจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์และโบสถ์ต่างๆ ทั่วกรุงโรมดังขึ้นเป็นสัญญาณการเดินทางของคริสตจักรโดยผู้นำคนใหม่

พระคาร์ดินัลโรเบิร์ต ฟรานซิส เพรวอสต์กลายเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกจากสหรัฐอเมริกา หลังจากที่พระคาร์ดินัลจากทั่วโลกเลือกพระองค์เป็นประมุขของชาวคาทอลิก 1,400 ล้านคน ภายใต้นามพระสันตะปาปาว่า “เลโอที่ 14”

ผู้คนนับหมื่นที่มารวมตัวกันในจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ต่างโห่ร้องแสดงความยินดีเมื่อพระสันตะปาปาปรากฏบนระเบียงมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ พร้อมโบกพระหัตถ์ทั้งสองข้าง, แย้มพระสรวล, ค้อมพระองค์ต่อศาสนิกชน และตรัสว่า “ขอสันติสุขจงมีแด่ท่านทั้งหลาย” ในสุนทรพจน์ครั้งแรกของพระสันตะปาปาองค์ที่ 267

พระสันตะปาปาองค์ใหม่ซึ่งสืบต่อจากพระสันตะปาปาฟรานซิสชาวอาร์เจนตินา ได้รับการแนะนำพระองค์เป็นภาษาละตินด้วยนามพระสันตะปาปาที่พระองค์ทรงเลือกเอง

พระสันตะปาปาฟรานซิสสิ้นพระชนม์เมื่อเดือนที่แล้วด้วยพระชนมายุ 88 พรรษา หลังจากดำรงตำแหน่งประมุขมาเป็นเวลา 12 ปี ซึ่งพระองค์พยายามสร้างคริสตจักรที่มีความเมตตากรุณามากขึ้น แต่กลับได้รับความโกรธแค้นจากกลุ่มอนุรักษนิยมจำนวนมากเนื่องจากแนวทางก้าวหน้าของพระองค์

ขณะนี้ พระสันตะปาปาองค์ใหม่กำลังเผชิญกับภารกิจสำคัญ นั่นคือ การแสดงจุดยืนทางศีลธรรมบนเวทีโลกที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง, การรวมคริสตจักรที่แตกแยกกันให้กลับเป็นหนึ่งเดียว และแก้ไขปัญหาอื้อฉาว เช่น ผลกระทบต่อเนื่องของกรณีการล่วงละเมิดทางเพศ

การรวมตัวของ “เจ้าชายแห่งคริสตจักร” จำนวน 133 องค์จาก 5 ทวีปทำให้พิธีคอนเคลฟครั้งนี้ยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็นสากลมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีพระคาร์ดินัลจากประมาณ 70 ประเทศเข้าร่วม ซึ่งหลายองค์ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำ

พวกเขาเริ่มประชุมลับกันตั้งแต่ช่วงบ่ายวันพุธ ภายใต้คำสาบานว่าจะรักษาความลับไว้ มิฉะนั้นจะถูกขับออกจากคริสตจักร โดยวิธีเดียวที่จะแจ้งความคืบหน้าให้โลกภายนอกทราบได้ก็คือการส่งควันขึ้นไปทางปล่องไฟของโบสถ์น้อยซิสทีน

การลงคะแนนรอบต่อไปในเย็นวันพุธและอีกครั้งในช่วงเที่ยงวันพฤหัสบดี ควันที่ออกมานั้นยังคงดำสนิท ทำให้ผู้เฝ้ารอหลายหมื่นคนถอนหายใจด้วยความผิดหวัง

แต่ในบ่ายวันพฤหัสบดี เวลาหลัง 18.00 น. เล็กน้อย ควันที่พวยพุ่งออกมาเป็นสีขาวเป็นเครื่องยืนยันว่าคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกได้ผู้นำทางจิตวิญญาณคนใหม่แล้ว

ไม่มีการเปิดเผยว่าต้องใช้บัตรลงคะแนนเสียงกี่ใบในการเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ครั้งนี้ แต่ที่แน่แน่คือใช้เวลาเพียงไม่ถึงสองวันในการสรุปผลการเลือก

แม้ว่ารายละเอียดของการลงคะแนนจะยังคงเป็นความลับตลอดไป แต่พระสันตะปาปาองค์ใหม่จะต้องได้รับคะแนนเสียงอย่างน้อย 2 ใน 3 จึงจะได้รับเลือก

ตามธรรมเนียมแล้ว พระองค์จะเสด็จเข้าไปในห้องแห่งน้ำตา ซึ่งเป็นที่ที่พระสันตะปาปาที่เพิ่งได้รับเลือกจักได้แสดงความรู้สึกของตนได้อย่างอิสระและทรงฉลองพระองค์ด้วยชุดพระสันตะปาปาเป็นครั้งแรก ก่อนจะเสด็จกลับเข้าไปในโบสถ์น้อยซิสทีนเพื่อให้คณะพระคาร์ดินัลกล่าวปฏิญาณ

พระองค์จะเสด็จไปที่ระเบียงพร้อมกับพระคาร์ดินัลอาวุโสซึ่งจะประกาศต่อฝูงชนที่รออยู่ว่า “Habemus Papam (เรามีพระสันตะปาปาแล้ว)”

จากนั้น พระสันตะปาปาจะทรงตรัสสั้นๆ และทรงอวยพร “Urbi et Orbi (แด่โรมและโลก)” เป็นครั้งแรก

การเลือกผู้นำคนใหม่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างมาก เช่นเดียวกับความขัดแย้งภายในคริสตจักร ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญในการลงคะแนนเสียง

สันตะปาปาฟรานซิสทรงเป็นนักปฏิรูปที่เปี่ยมด้วยความเห็นอกเห็นใจและให้ความสำคัญกับผู้อพยพและสิ่งแวดล้อม แต่พระองค์ทรงทำให้ผู้ที่ยึดมั่นในประเพณีโกรธเคืองเนื่องจากพวกเขาเหล่านั้นต้องการให้พระองค์ดำรงตนเป็นผู้ปกป้องหลักคำสอนมากกว่าผู้เป็นข่าวหน้าหนึ่ง

ประมาณ 80% ของพระคาร์ดินัลผู้มีสิทธิลงคะแนนล้วนได้รับการแต่งตั้งโดยสันตะปาปาฟรานซิสและมีถิ่นฐานมาจาก 70 ประเทศทั่วโลก อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้เป็นหลักประกันว่าพระคาร์ดินัลจะเลือกใครที่มีลักษณะแบบพระองค์

ในเช้าวันพุธที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ก่อนการประชุมลับ คณบดีคณะคาร์ดินัลจิโอวานนี บัตติสตา เร ได้ให้คำแนะนำสุดท้ายแก่บรรดาผู้มีสิทธิเลือกสันตะปาปา กล่าวว่า

“พวกเราอยู่ที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์, เพื่อวิงวอนขอแสงสว่างและความเข้มแข็งของพระองค์, เพื่อที่พระสันตะปาปาที่ได้รับเลือกจะเป็นผู้ซึ่งคริสตจักรและมนุษยชาติต้องการในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ยากลำบากและซับซ้อนในประวัติศาสตร์”

พระสันตะปาปาองค์ต่อไปจะต้องสามารถเป็นผู้นำท่ามกลางความขัดแย้งที่โหมกระหน่ำทั่วโลกและการเพิ่มขึ้นของพรรคชาตินิยมสุดโต่ง

นอกจากนี้ คริสตจักรยังประสบปัญหาในการปรับตัวเข้ากับโลกสมัยใหม่ เนื่องจากจำนวนบาทหลวงลดลงและกระแสการเข้าโบสถ์น้อยลงในโลกตะวันตก

หลังจากนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 จะทรงประกอบพิธีมิสซาแด่คณะพระคาร์ดินัลที่โบสถ์น้อยซิสทีนในเวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันศุกร์ จากนั้นสมเด็จพระสันตะปาปาจะทรงปรากฏพระองค์ต่อสื่อมวลชนทั่วโลกในเช้าวันจันทร์ ตามรายงานของสำนักข่าววาติกัน.

The post คาร์ดินัลเพรวอสต์ : พระสันตะปาปาองค์แรกของสหรัฐฯ ในพระนามว่า “เลโอที่ 14” appeared first on .

You may also like...

1 Response

  1. Nice read, I just passed this onto a colleague who was doing a little research on that. And he actually bought me lunch since I found it for him smile Thus let me rephrase that: Thank you for lunch!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *