จากชุมชนถึงจังหวัด! พอช.เสริมพลังผู้นำภาคเหนือ สู่ ‘จังหวัดจัดการตนเอง'” เปิดเวทีพัฒนาศักยภาพผู้นำชุมชน 9 จังหวัด เน้นกระจายอำนาจ สร้างฐานพลังพลเมือง หนุนท้องถิ่นเข้มแข็ง
เวทีพัฒนาศักยภาพผู้นำชุมชน 9 จังหวัด
สุโขทัย – วันที่ 23 เมษายน 2568 สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. เปิดเวทีสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “พัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลงสู่จังหวัดจัดการตนเอง” ครั้งที่ 1 สำหรับกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง โดยมีผู้นำขบวนองค์กรชุมชนกว่า 50 คนจาก 9 จังหวัด เข้าร่วม ณ สุโขทัยพรเจริญ รีสอร์ทแอนด์สปา อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย
ผู้นำขบวนองค์กรชุมชนภาคเหนือตอนล่าง
เวทีนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับศักยภาพผู้นำชุมชนในการขับเคลื่อนแนวคิด “จังหวัดจัดการตนเอง” ผ่านการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนอภิปราย และกระบวนการกลุ่ม โดยเน้นการพัฒนาใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ การสร้างความเข้าใจแนวคิดการกระจายอำนาจ, การเชื่อมโยงกลไกระดับจังหวัด, การวิเคราะห์พื้นที่และจัดทำแผนพัฒนา และการฝึกใช้เครื่องมือในการพัฒนาพื้นที่
นายกฤษดา สมประสงค์ ผู้อำนวยการ พอช. กล่าวถึง ความสำคัญของการผลักดันจังหวัดจัดการตนเอง เพื่อให้การพัฒนาแต่ละพื้นที่ตอบโจทย์บริบทของชุมชน พร้อมสร้างหุ้นส่วนความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และท้องถิ่น เพื่อให้การพัฒนาเชื่อมโยงในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
พอช. มุ่งหวังให้ชุมชนไทยเข้มแข็งเต็มพื้นที่ภายในปี พ.ศ. 2579 ด้วยวิสัยทัศน์ที่เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนและผู้นำชุมชนในทุกระดับ แม้ว่าการเมืองระดับชาติจะมีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย แต่หากฐานรากของประเทศ คือ “ชุมชน” มีความมั่นคง ประเทศชาติก็จะสามารถพัฒนาไปได้อย่างมั่นคงเช่นกัน ซึ่งพลังสำคัญในการขับเคลื่อน คือการทำงานร่วมกันระหว่างบุคลากรของ พอช. และเครือข่ายผู้นำชุมชนในลักษณะของ “หัวใจสองดวง” ที่ประสานกันอย่างแข็งแรง นายกฤษดา กล่าวในตอนท้าย
นายวิเชียร พลสยม ผู้ช่วยผู้อำนวยการ พอช. กล่าวว่า เวทีนี้มีเป้าหมายสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้ผู้นำชุมชนเป็นแกนหลักของการขับเคลื่อนจังหวัดจัดการตนเอง ซึ่งต้องอาศัยองค์ประกอบสำคัญ คือ “พลังความรู้ – พลังการสื่อสาร – พลังภาคี” และที่สำคัญที่สุดคือ “พลังพลเมือง” ที่จะผลักดันองค์กรภาคประชาชนให้เข้มแข็ง สามารถจัดการตนเองได้อย่างแท้จริง
นายวิเชียร กล่าวเน้นถึงการสร้าง ชุมชนเข้มแข็งสู่การจัดการตนเอง ซึ่งเป็นเป้าหมายร่วมกันของทุกฝ่าย การพัฒนาเน้นการเสริมศักยภาพผู้นำและใช้กลไกที่มีอยู่ เช่น สะพานบันไดเลื่อน และการมีส่วนร่วมขององค์กรภาคประชาชน ในการกำหนดทิศทางการพัฒนาจังหวัด ทั้งนี้ มีการประสานความร่วมมือกับองค์กรภายนอก เช่น สถาบันวิชาการ และองค์กรอิสระต่างๆ เพื่อสนับสนุนการทำงานอย่างบูรณาการ และยกตัวอย่างการทำงานร่วมกันในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่สามารถดึงงบประมาณจากหลายหน่วยงานภายนอกมาร่วมพัฒนาได้ถึงกว่า 44 ล้านบาท โดยเน้นการฟังเสียงประชาชนเพื่อวางแผนพัฒนาอย่างสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ยังพบว่าการจัดสรรงบประมาณในระดับประเทศ ยังให้ความสำคัญกับโครงการก่อสร้างมากกว่ากระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องร่วมกันผลักดันในอนาคต
นายสมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนระดับชาติ กล่าวย้ำถึง การผลักดันจังหวัดจัดการตนเองจะสำเร็จได้ต้องเปิดพื้นที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ตั้งแต่การกำหนดทิศทาง วางแผน ไปจนถึงการติดตามการพัฒนา เพื่อให้ชุมชนเป็นเจ้าของการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง สำหรับการพัฒนาศักยภาพผู้นำ สู่ขบวนชุมชนที่จัดการตัวเองได้นั้น ตลอดกว่า 20 ปีของการทำงานที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่า “ผู้นำที่มีศักยภาพ” คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงชุมชนอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะผู้นำที่เข้าใจ บริหารความหลากหลายได้ และเชื่อมโยงกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ
นายสมบูรณ์ กล่าวต่อ การสร้าง “ขบวนผู้นำ” ที่มีเป้าหมายร่วมกันในระดับจังหวัด เน้นพัฒนาความคิด ทักษะ และความเข้าใจใหม่ ๆ รวมถึงเสริมพลังผู้นำรุ่นใหม่ควบคู่กับผู้นำรุ่นเก่า ผ่านองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ เยาวชน เทคโนโลยี และความเหลื่อมล้ำ แนวคิด “จังหวะจัดการตัวเอง” ถูกใช้เป็นแนวทางหลัก ช่วยให้ชุมชนลุกขึ้นริเริ่มและรับมือปัญหาได้เอง โดยไม่รอความช่วยเหลือจากภายนอก พร้อมผลักดันให้การประสานงานกับภาคีต่าง ๆ เกิดเป็น “เครือข่ายพลังท้องถิ่น” ที่ตอบสนองปัญหาได้ตรงจุด การพัฒนาผู้นำคือการลงทุนในทุนมนุษย์และทุนทางสังคม เพื่อปั้นขบวนชุมชนที่เข้มแข็ง มีเป้าหมายร่วม และพร้อมจัดการตนเองอย่างยั่งยืนในอนาคต.
นายกมล ปุยยะรุน ผอ.สำนักสำนักพัฒนาผู้นำและนวัตกรรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า การหนุนศักยภาพผู้นำขบวนองค์กรชุมชนเป็นการ “ติดอาวุธทางปัญญา” เสริมแกร่งสู่การจัดการตนเอง บทบาทผู้นำที่เข้มแข็ง คือหัวใจในการพัฒนาชุมชน พอช.จึงเดินหน้าเพิ่มขีดความสามารถผู้นำท้องถิ่นทั่วประเทศ ผ่านหลักสูตรฝึกอบรมหลากหลาย ตอบโจทย์บริบทพื้นที่ บทบาท “ผู้นำ” จึงเป็นกลไกสำคัญในกระบวนการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่นให้สามารถจัดการตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งผู้นำรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ต่างเป็นพลังสำคัญที่ต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมศักยภาพดังกล่าว พอช. ได้ออกแบบหลักสูตรฝึกอบรม 2 รูปแบบหลัก ได้แก่ 1.หลักสูตรร่วมออกแบบกับขบวนองค์กรชุมชนในภูมิภาค เน้นตอบโจทย์บริบทท้องถิ่นจากผลการประเมินสมรรถนะผู้นำ 2.หลักสูตรกลางจากข้อมูลภาพรวมระดับประเทศ เพื่อยกระดับผู้นำให้สามารถขับเคลื่อนงานในระดับจังหวัดแบบบูรณาการ นอกจากนี้ยังมี หลักสูตรเสริม เช่น การศึกษาดูงานต่างประเทศเพื่อเรียนรู้จากประสบการณ์นานาชาติ และหลักสูตรใหม่ด้านการรับมือภัยพิบัติที่อยู่ระหว่างการออกแบบ ควบคู่กัน พอช. ยังพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ภายในองค์กร ให้ทำงานร่วมกับผู้นำขบวนองค์กรชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนแนวทางพัฒนาองค์กรทั้งระบบ เพื่อสร้าง “พลังผู้นำ” ที่พร้อมเผชิญการเปลี่ยนแปลงและผลักดันชุมชนให้จัดการตนเองได้อย่างยั่งยืนในอนาคต.
“วงสานเสวนา” แนวทางการขับเคลื่อนนโยบายจังหวัดจัดการตนเอง
นอกจากนั้นยังมีเวที “วงสานเสวนา” แนวทางการขับเคลื่อนนโยบายจังหวัดจัดการตนเอง โดย นายไพสิฐ พาณิชย์กุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้นำเสนอหลักคิดการกระจายอำนาจแบบมีส่วนร่วม เพื่อให้จังหวัดมีอำนาจกำหนดทิศทางและพัฒนาท้องถิ่นตามบริบทของตนเองอย่างแท้จริง
นายไพสิฐ พาณิชย์กุล