ทรัมป์เผยตัวเลขภาษีศุลกากรตอบโต้ที่จะบังคับใช้กับชาติต่างๆทั่วโลก
โดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยตัวเลขภาษีศุลกากรตอบโต้ที่มุ่งเป้าหมายไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงคู่ค้าที่ใกล้ชิดที่สุดบางราย นำมาซึ่งความเสี่ยงที่อาจจุดชนวนให้เกิดสงครามการค้าดุเดือด
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ถือแผนภูมิตัวเลขภาษี ขณะกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับภาษีศุลกากรตอบโต้ในงานที่จัดขึ้นที่สวนกุหลาบในหัวข้อ “Make America Wealthy Again” ที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 2 เมษายน (Photo by Brendan SMIALOWSKI / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน 2568 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเกี่ยวกับภาษีศุลกากรตอบโต้ระหว่างงานอีเวนต์ที่มีชื่อว่า “Make America Wealthy Again” ณ ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์ที่สวนกุหลาบ โดยมีฉากหลังเป็นธงชาติสหรัฐฯ พร้อมอ้างถึงมาตรการภาษีศุลกากรที่มุ่งลงโทษจีนและสหภาพยุโรปอย่างรุนแรงที่สุดในวันที่เขาเรียกว่า “วันปลดปล่อย (Liberation Day)”
เขากล่าวว่า “เป็นเวลาหลายทศวรรษที่ประเทศของเราถูกปล้น, ช่วงชิง, ข่มเหง และเอาเปรียบโดยประเทศต่างๆ ทั้งใกล้และไกล ทั้งมิตรและศัตรู”
ทรัมป์โจมตีหนักหน่วงที่สุดต่อสิ่งที่เขาเรียกว่า “ประเทศที่ปฏิบัติไม่ดีกับเรา” โดยเรียกเก็บภาษีสูงถึง 34% สำหรับสินค้าจากจีนซึ่งเป็นคู่แข่งหลัก, 20% สำหรับพันธมิตรสำคัญอย่างสหภาพยุโรป และ 24% สำหรับญี่ปุ่น
แต่ผู้นำสหรัฐวัย 78 ปีซึ่งอวดแผนภูมิที่มีรายการภาษีต่อประเทศต่างๆ กล่าวว่าเขาใจดีมากแล้วที่เรียกเก็บเพียงครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินที่ประเทศเหล่านั้นเก็บภาษีสินค้าของสหรัฐฯ
สำหรับประเทศที่นอกเหนือจากแผนภูมิ ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรพื้นฐานที่ 10% ซึ่งรวมถึงอังกฤษด้วย
คณะผู้ฟังซึ่งเป็นสมาชิกคณะรัฐมนตรี ตลอดจนคนงานจากอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น เหล็ก, น้ำมัน และก๊าซ ต่างส่งเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีขณะที่ทรัมป์คุยโวว่าภาษีศุลกากรดังกล่าวจะทำให้อเมริกากลับมามั่งคั่งอีกครั้ง
ทรัมป์กล่าวว่า “วันนี้คือวันปลดปล่อย และวันนี้จะถูกจดจำตลอดไปว่าเป็นวันที่อุตสาหกรรมของอเมริกาฟื้นคืนชีพ เป็นวันที่ชะตากรรมของอเมริกาถูกทวงคืน”
ทั้งนี้ ภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% ที่ทรัมป์ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจะมีผลบังคับใช้ในเวลา 00.01 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันพฤหัสบดีเช่นกัน
ทรัมป์ได้ส่งสัญญาณถึงการเคลื่อนไหวดังกล่าวมาหลายสัปดาห์แล้ว โดยยืนกรานว่าภาษีศุลกากรจะช่วยป้องกันไม่ให้สหรัฐฯ ถูกเอาเปรียบโดยประเทศอื่นๆ และกระตุ้นให้เกิดยุคทองใหม่ของอุตสาหกรรมอเมริกา
แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเตือนว่าการขึ้นภาษีศุลกากรอาจทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในประเทศ เนื่องจากต้นทุนถูกโยนไปให้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ และสงครามการค้าที่ส่งผลเสียหายในต่างประเทศ
ภาษีศุลกากรดังกล่าวยังทำให้เกิดความกังวลที่ว่าทรัมป์กำลังนำสหรัฐฯถอยห่างจากพันธมิตรมากขึ้น และมุ่งนำประเทศไปสู่ระเบียบโลกใหม่ที่มีอเมริกาอยู่ในจุดสูงสุด
พันธมิตรทางการค้าของสหรัฐฯ ต่างให้คำมั่นว่าจะตอบโต้ทันที ในขณะเดียวกันก็พยายามโน้มน้าวทรัมป์ให้บรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้ด้านภาษีศุลกากรระหว่างกัน
เยอรมนีเตือนว่าสงครามการค้าจะส่งผลกระทบต่อทั้งสองฝ่าย, อังกฤษแสดงจุดยืนอย่างแข็งกร้าวและเชื่อว่าสงครามการค้าไม่เป็นผลดีต่อใครทั้งสิ้น ขณะที่สหภาพยุโรปจะตอบสนองต่อภาษีศุลกากรใหม่ของทรัมป์ก่อนสิ้นเดือนเมษายน
ทรัมป์หลงใหลมาตรการภาษีศุลกากรมาตลอด โดยเขายืนกรานต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญว่าภาษีศุลกากรเป็นยาครอบจักรวาลสำหรับแก้ไขความไม่สมดุลทางการค้าและปัญหาเศรษฐกิจของอเมริกา
มหาเศรษฐีรายนี้ยืนกรานว่าภาษีศุลกากรจะทำให้กำลังการผลิตของอเมริกาที่ลดลงสามารถฟื้นกลับมาใหม่ และบริษัทต่างๆ สามารถหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรได้โดยการย้ายฐานการผลิตมายังสหรัฐอเมริกา
แต่บรรดานักวิจารณ์กล่าวว่าภาคธุรกิจและผู้บริโภคในสหรัฐฯ อาจเป็นผู้ได้รับผลกระทบตัวจริงหากผู้นำเข้าผลักภาระภาษีเหล่านั้นมาให้แบกรับแทน และเสริมว่านโยบายดังกล่าวอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย
“หากสงครามการค้ายังคงดำเนินต่อไปจนถึงวันแรงงาน (1 กันยายน) เศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้” มาร์ก แซนดี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Moody’s Analytics กล่าวกับเอเอฟพี
อย่างไรก็ตาม การเจรจาน่าจะดำเนินต่อไป เนื่องจากประเทศต่างๆ พยายามต่อรองอย่างเต็มกำลัง
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้รับการโน้มน้าวให้ยกเลิกการขึ้นภาษีศุลกากรกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างแคนาดาและเม็กซิโก ขณะที่การเจรจาการค้ายังคงดำเนินต่อไป
เขาสั่งเก็บภาษีเพิ่มต่อเพื่อนบ้านทั้งสองด้วยข้ออ้างว่าต้องการลงโทษที่ประเทศเหล่านี้ไม่สามารถหยุดยั้งการลำเลียงเฟนทานิลซึ่งเป็นสารโอปิออยด์ร้ายแรงเข้าสู่สหรัฐฯ ได้.
The post ทรัมป์เผยตัวเลขภาษีศุลกากรตอบโต้ที่จะบังคับใช้กับชาติต่างๆทั่วโลก appeared first on .