สว.จี้รัฐบาลถอน ร่างพรบ.สถานบันเทิงฯ ออกไปจากสภาฯ ไม่ใช่ทิ้งเชื้อคาไว้
การออกกฎหมายใดๆ ก็ตาม หากยิ่งออกเร็ว จะทำให้เขาเกิดความมั่นคงเพราะเมื่อกฎหมายออกมาแล้ว การไปยกเลิกภายหลังจะทำได้ลำบาก เขาอาจมองว่าอายุของรัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้ถึงอีกสองปีเศษหรือไม่ ดังนั้นอะไรที่ออกเป็นกฎหมายได้เร็ว ก็อยากผลักดันให้ออกไปก่อนเพราะมันจะมีผลต่อรายได้ คนเรามันมองเรื่องเดียวเรื่องรายได้ จะระดับรากหญ้าก็มองเรื่องรายได้ คนทำงานก็มองรายได้ เจ้าของบริษัทก็มองรายได้ ยิ่งนักการเมือง ก็ยิ่งมองรายได้ว่าจะมีทุนเพื่อที่จะเอาไปหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งต่อไปอย่างไร
สภาผู้แทนราษฎรได้ปิดสมัยประชุมไปแล้วเมื่อ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยไม่ได้มีการพิจารณา”ร่างพรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ..ฯ”เพราะรัฐบาลตัดสินใจเลื่อนการผลักดันให้สภาฯพิจารณาเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ออกไปก่อน หลังมีกระแสคัดค้านของสังคมต่อร่างกฎหมายดังกล่าว ที่จะทำให้มีการเปิดกาสิโน อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย ยืนกรานว่า ไม่มีการล้มเลิก จะยังเดินหน้าผลักดันร่างพรบ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ต่อไป หลังมีการเปิดประชุมสภาฯสมัยหน้า
ขณะเดียวกัน ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการตั้ง “คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร วุฒิสภา”ขึ้นมาพิจารณาศึกษานโยบายดังกล่าวของรัฐบาล จำนวน 35 คน และหนึ่งในสว.ที่ร่วมเป็นกมธ.ฯชุดดังกล่าวด้วยก็คือ “ปฏิมา จีระแพทย์ สมาชิกวุฒิสภา”
“ปฏิมา-กมธ.วิสามัญศึกษาการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร วุฒิสภา“กล่าวถึงการที่รัฐบาลเลื่อนการผลักดันร่างพรบ.สถานบันเทิงครบวงจรฯออกไปว่า รัฐบาลตัดสินถูกต้องแล้วที่เลื่อนการพิจารณาร่างพรบ.ดังกล่าวออกไปก่อน
“อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเลื่อนพิจารณา แต่มันยังมีเชื้ออยู่ เพราะยังไม่มีการยกเลิก รัฐบาลต้องฟังเสียงประชาชน เพื่อดูว่าประชาชนมีความเห็นอย่างไร หากเป็นไปได้ ก็ควรยกเลิกการเสนอร่างพรบ.ดังกล่าวเข้าสภาฯไปเลย”
…ด้วยผมมองว่าไม่ใช่การส่งเสริมรายได้เข้าประเทศ เพราะในอนาคต กฎหมายทุกฉบับการบังคับใช้กฎหมายอาจหย่อนยานได้เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ในอนาคตอาจสร้างปัญหาให้กับประชาชนได้ อย่างนักธุรกิจเอง ผมได้คุยกับหลายคน เขากังวลในเรื่องนี้เพราะหากพนักงานของบริษัทติดการพนัน แล้วมีหนี้สิน จะมีผลต่อการทำงานในบริษัท ก็อาจมาโกงบริษัท มีความกังวลกันอยู่ ตอนนี้รัฐบาลควรเอาเวลาไปแก้ปัญหาประเทศเช่นกรณีสหรัฐอเมริกาขึ้นภาษีนำเข้าจากไทย ที่จะเกิดผลกระทบตามมามากมายเช่น ในส่วนของโรงงานที่ผลิตสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ ที่อาจเจอผลกระทบจนต้องเลิกจ้างคนงาน-พนักงาน รัฐบาลควรเอาเวลาไปแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ไม่ใช่การบอกว่าจะเอาเอนเตอรท์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มาเป็นแหล่งหารายได้ให้ประเทศ เพราะคนก็เห็นกันว่าเรื่องนี้มันไม่ได้ช่วยในเรื่องของรายได้ที่จะเข้าประเทศอย่างแท้จริง
…รัฐบาลคงมีเจตนาที่ดี ในเรื่องการต้องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ มีการออกโปรเจกต์มาหลายอย่าง ซึ่งในส่วนของนโยบายการให้มีการเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มาถึงตอนนี้มีตัวแปรที่เป็นสมการให้รัฐบาลต้องทบทวน ที่ไม่ใช่แค่เสียงต่อต้าน ก็คือการที่ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกกำแพงภาษีการส่งออกของไทยเข้าไปที่สหรัฐอเมริกาที่ประกาศออกมาคือ 36 เปอร์เซ็นต์ ก็ยิ่งตอกย้ำมากขึ้นว่า รัฐบาลยังไม่ควรทำโครงการใหญ่ๆอะไรในเวลานี้ ในประเทศไทย เพราะต่อไปไทยจะมีปัญหาเรื่องการส่งออก หลังสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย ทำให้ผู้ส่งออกของไทยได้รับผลกระทบกันไปหมดเช่นเดียวกับผู้ส่งออกทั่วโลกที่ต่างได้รับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าว เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มีเป้าหมายหลักคือต้องการให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งผมมองว่า นักลงทุนต่างชาติที่สนใจอยากมาลงทุนในไทย แต่เมื่อเจอเงื่อนไขเศรษฐกิจของโลกในปัจจุบัน ถามว่าจะมีนักลงทุนต่างชาติสักกี่รายที่สนใจจะเข้ามาลงทุน ซึ่งผมมองว่าจะมีน้อยมาก
ขณะเดียวกัน จะพบว่ามีกระแสคัดค้านนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล ก่อนหน้านี้ ที่มีทั้งองค์กรศาสนา และกลุ่มประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะที่มีประชาชนจำนวนมากไปรวมตัวกันคัดค้านนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลที่หน้ารัฐสภาก่อนหน้านี้ สิ่งที่เกิดขึ้นเพียงเท่านี้ ก็มีเหตุผลเพียงพอแล้วที่รัฐบาลควรต้องหยุด เพราะหลายคนคิดว่า มันไม่ควรจะมีในเวลานี้
ประเด็นที่ผมเห็นว่าไม่ควรทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แม้จะมีพื้นที่สำหรับการเปิดกาสิโนแค่สิบเปอร์เซ็นต์ ก็ด้วยเหตุผลที่ว่า หากเอาเฉพาะเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อย่างเดียว ยังไม่พูดถึงกาสิโน ที่มีการบอกว่าในโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะมีสิ่งต่างๆ ครบวงจร เช่นโรงภาพยนต์ โรงละคร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า
หากดูจากสภาพปัจจุบัน อย่างโรงแรมในประเทศไทย หากดูอัตราการเข้าพัก Occupancy rate จะพบว่ามีแค่บางโรงแรมเท่านั้น ที่อยู่ในย่านธุรกิจ ย่านท่องเที่ยว ที่มีรถไฟฟ้าไปถึงอาจจะมีอัตราการเข้าพัก 90 เปอร์เซ็นต์ แต่โรงแรมในพื้นที่อื่นๆ รอบกรุงเทพมหานครหรือต่างจังหวัดอัตราการเข้าพัก จะอยู่ที่ประมาณ 75-80 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเป็นบางจังหวัดเช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อัตราการเข้าพักอาจจะสูงถึง 100 เปอร์เซ็นต์ตรงนี้เป็นไปได้ ดังนั้นโรงแรมในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะเข้ามาเป็นตัวแปร ที่จะมาแข่งขัน เข้ามาแย่งเรื่องห้องพักของโรงแรม
ขณะที่ศูนย์การค้า อย่างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในกรุงเทพมหานคร เช่น ไอคอนสยาม สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ ถามว่า วันนี้คนที่ไปเดินในห้างดังกล่าวแล้วซื้อของ ไม่ใช่แค่เดินเล่นมีมากน้อยแค่ไหน คำตอบที่ผมมีคือ ทุกวันนี้ ที่เขาเรียกว่า window shopper ก็คือแค่ไปเดินดูของในห้าง เป็นการประหยัดค่าไฟที่บ้าน และส่วนใหญ่ที่ไปก็คือไปทานอาหาร ดังนั้น การจะเปิดห้างสรรพสินค้าในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็ต้องทบทวนให้ดี ต้องทำการศึกษาอย่างลึกซึ้ง
ส่วนที่จะให้มีโรงละคร จุคนได้ 20,000-30,000 คน ผมถามว่าขนาดปัจจุบัน ประเทศไทยมีโรงละครหลายแห่ง ที่ขนาดไม่ใช่โรงละครขนาดใหญ่ ก็ยังมีเข้าไปไม่ค่อยเต็มจำนวนที่นั่งในโรงละคร ดังนั้นหากมีโรงละครใหญ่ ๆเปิดขึ้นมาถามว่า จะมีโอกาสจัดงานใหญ่ๆปีหนึ่งกี่ครั้ง และมีโอกาสที่จะมีคนเข้าไปชมกันเป็นจำนวนหลายหมื่นคนจริงหรือไม่ ก็ควรมีการศึกษาก่อน เช่นเดียวกับการที่จะให้มี สวนน้ำ สวนสนุก ในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ควรไปดูผลประกอบการ -การลงทุน ของสวนน้ำ สวนสนุกที่มีอยู่ก่อน ว่าเป็นอย่างไร ที่ก็พบว่า ยังไม่ได้มีการศึกษาเรื่องเหล่านี้อย่างลึกซึ้ง
“ปฏิมา-กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร วุฒิสภาฯ” “กล่าวว่า สำหรับเรื่อง”กาสิโน“หากดูจากกาสิโนที่มีอยู่ ถ้าไปดูตัวเลขคนที่เข้าไปเล่นในกาสิโนทั่วโลกว่ามีมากขึ้นหรือลดลง อย่างที่ลาสเวกัส คนไทยที่เคยไปเที่ยวก็เคยมาเล่าให้ฟังว่า คนที่เข้าไปเล่นตอนนี้แผ่วลงไปเยอะมาก หรือที่มาเก๊า ที่บอกว่ามีกาสิโนชั้นนำระดับโลก ก็มีปริมาณนักท่องเที่ยวไปลดลง
ส่วนที่ สิงคโปร์ อาจจะมีคนเข้าไปเล่นเยอะ เพราะมีแห่งเดียวและมีโรงแรมอยู่ด้วย ส่วนที่ฟิลิปปินส์ ผมเคยได้คุยกับรัฐมนตรีเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ เขาบอกว่า การทำกาสิโนในฟิลิปปินส์ตอนเริ่มต้นเมื่อหลายสิบปีที่แล้วมีการจำกัดไว้ว่าจะให้ทำได้ไม่เกินกี่ราย เหมือนที่มีแนวคิดแบบนี้ในไทย มีการให้เปิดในพื้นที่โซนพิเศษที่จัดไว้ให้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ด้วยกำลังของข้าราชการและนักธุรกิจ ปัจจุบันที่ฟิลิปปินส์ มีกาสิโนที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในอาคารเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แต่ปัจจุบันกาสิโนตั้งอยู่ตามสี่แยก หรือในอาคารประเภทShopping Mall
ค้านเล็งพื้นที่การท่าเรือฯ-คลองเตย สองพันกว่าไร่ เตรียมทำสถานบันเทิงฯ
“ปฏิมา-สมาชิกวุฒิสภา“ย้ำว่า รัฐบาลต้องฟัง คนที่ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร สำหรับผมเองจากที่ได้ติดตามข่าว รัฐบาลเล็งพื้นที่ไว้ที่แถวคลองเตย ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ผมมองว่าพื้นที่ 2,153 ไร่ ของการท่าเรือฯ ทำอะไรได้อีกเยอะ และปัจจุบันก็มีหน่วยงานราชการในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงเช่น กรมศุลกากร สำนักงานการท่าเรือฯ ดังนั้น การจะทำโครงการขนาดใหญ่ต้องมีการศึกษาอย่างลึกซึ้ง
ปัจจุบันเมื่อมีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เนื้อที่แค่ 2-3 ไร่ มีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ความคุ้มทุนของโครงการ การทำวิจัยต่างๆ บางแห่งต้องใช้เวลา 2-3 เดือน บางแห่งอย่าง การท่าเรือฯ ก็ 5-6 เดือน กว่าจะทำเสร็จเพราะว่าพื้นที่มันใหญ่มาก และในเรื่องของตัวเลข ที่รัฐบาลบอกว่า หากทำโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะสร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล มีรายได้จากค่าใบอนุญาตประกอบกิจการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยมีการยกตัวเลขต่างๆ ออกมา ผมไปติดตามเช็คข้อมูล ที่เคยเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงในคณะกรรมาธิการฯของวุฒิสภา พบว่าข้อมูลที่แต่ละหน่วยงานชี้แจง ก็ไม่ตรงกัน แล้วแบบนี้เราจะเชื่อถือข้อมูลที่อ้างได้อย่างไร
“ผมเห็นว่ารัฐบาลมีความเร่งรีบมากเกินไปในการที่จะผลักดันโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยไม่ได้มีการศึกษาอย่างรอบคอบ จึงเป็นที่มาที่ทำให้ประชาชนชาวไทย ทั้งส.ส.ฝ่ายค้าน สว.อีกหลายคน องค์กรทางศาสนาต่างๆ ต่างก็ออกมาต่อต้าน ไม่อยากให้ทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยเฉพาะกาสิโน”
เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์-เจ้าของบ่อน คือคนได้ประโยชน์!
“ปฏิมา-กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร วุฒิสภาฯ”กล่าวต่อไปว่า ในต่างประเทศ ที่มีการอ้างว่าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีกาสิโนได้กำไรมหาศาล แต่ประเทศไทยหากมีการให้ทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์-กาสิโน มองว่าคงได้กำไรไม่มาก และต้องถามว่าส่วนต่างกำไร จะไปอยู่ที่บุคคลใด นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หรืออยู่ที่ใคร อีกทั้งปัจจุบัน กาสิโนในโลก ตอนนี้ก็แพ้ Online gambling หรือการพนันออนไลน์ ที่คนเข้าถึงได้ง่ายกว่า ไม่ต้องไปที่กาสิโน
“เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แม้ไม่มีกาสิโน ผมก็ไม่เห็นด้วย ยิ่งเมื่อมีกาสิโน ผมยิ่งไม่เห็นด้วย อยากให้รัฐบาลฟังเสียงประชาชน ซึ่งสว.หลายคนไม่เห็นด้วยกับเรื่องกาสิโน เพราะเรื่องนี้จะสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสังคม”
เห็นได้จากช่วงที่ผ่านมาที่มีบุคคลจากหลายกลุ่มออกมาคัดค้านไม่เห็นด้วย ทั้งการที่ประชาชนจำนวนมากลงชื่อคัดค้าน หรือการออกมาแสดงท่าทีขององค์กรด้านศาสนาต่างๆ เพราะเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คนที่ได้ประโยชน์จริงๆ หากมีการทำ ก็คือนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หรืออาจเป็นเจ้าของบ่อนที่อยากมาเปิดในเมืองไทย แต่ประชาชนรากหญ้าไม่ได้ประโยชน์
“สว.ปฏิมา“ยังกล่าวถึงเสียงวิจารณ์ถึงท่าทีของรัฐบาลที่ถูกมองว่าเร่งรัด-เร่งรีบต้องการให้ร่างพรบ.สถานบันเทิงครบวงจรฯออกมาประกาศใช้โดยเร็วว่า การออกกฎหมายใดๆ ก็ตาม หากยิ่งออกเร็ว จะทำให้เขาเกิดความมั่นคงเพราะเมื่อกฎหมายออกมาแล้ว การไปยกเลิกภายหลังจะทำได้ลำบาก เขาอาจมองว่าอายุของรัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้ถึงอีกสองปีเศษหรือไม่ ดังนั้นอะไรที่ออกเป็นกฎหมายได้เร็ว ก็อยากผลักดันให้ออกมาไปก่อนเพราะมันจะมีผลต่อรายได้ คนเรามันมองเรื่องเดียวเรื่องรายได้ จะระดับรากหญ้าก็มองเรื่องรายได้ คนทำงานก็มองรายได้ เจ้าของบริษัทก็มองรายได้ ยิ่งนักการเมือง ก็ยิ่งมองรายได้ว่าจะมีทุนเพื่อที่จะเอาไปหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งต่อไปอย่างไร
โดยวรพล กิตติรัตวรางกูร
The post สว.จี้รัฐบาลถอน ร่างพรบ.สถานบันเทิงฯ ออกไปจากสภาฯ ไม่ใช่ทิ้งเชื้อคาไว้ appeared first on .