เพราะไม่รู้กฎหมาย…จึงโวยวายกันลั่น

เมื่อศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำสั่งคดีระหว่างอัยการสูงสุด คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้เข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ คือ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้ร้อง นายทักษิณ ชินวัตร จำเลย โดยนายชาญชัยยื่นคำร้องกับขอให้ไต่สวนการบังคับโทษจำคุกแก่นายทักษิณว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลพิเคราะห์คำร้องแล้วเห็นว่านายชาญชัย ไม่ใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากการบังคับโทษจำคุกแก่นายทักษิณในคดีดังกล่าว 

จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลนี้ เมื่อได้รับรู้การวิเคราะห์ของศาลท่อนนี้ หลายคนผิดหวัง ใจหายว่าไม่มีใครทำอะไรทักษิณได้ ความไม่รู้กฎหมาย หลายคนจึงโวยวายไว้ก่อน บางคนไม่พอใจการวิเคราะห์แบบนี้ จนคำพูดคำจาเหมือนจะด่าศาล และก้าวล่วงอำนาจของศาล

แต่อย่างไร ถ้าหากฟังต่อก็จะพบว่า ศาลจะพิจารณาว่าการบังคับตามคำพิพากษาของศาล อาจจะไม่เป็นไปตามหมายจำคุก เมื่อคดีถึงที่สุดของศาล ดังนั้น ศาลย่อมมีอำนาจไต่สวนและมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร จึงได้ส่งสำเนาคำร้องให้โจทก์และนายทักษิณ แจ้งต่อศาลว่ามีข้อเท็จจริงตามที่กล่าวอ้างในคำร้องของนายชาญชัยหรือไม่ อย่างไร มีการสำเนาคำร้องให้ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้บุคคลดังกล่าวชี้แจงข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาของศาล ว่าการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยเป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาล หรือไม่ อย่างไร โดยให้โจทก์ จำเลย ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ แจ้งให้ศาลทราบ พร้อมกับแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่งศาล โดยศาลมีคำสั่งให้นัด นัดไต่สวนในวันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 09.30 น.

สำหรับคนที่เข้าใจกฎหมาย หรือถ้าไม่เข้าใจแต่ได้ไต่ถามผู้รู้ให้เข้าใจ ก็จะรู้ว่าต่อจากนี้อะไรจะเกิดขึ้น อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้จัดการเรือนจำ แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ และรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม โจทย์คือ พนักงานอัยการ และ ป.ป.ช. จำเลยคือ นายทักษิณ จะต้องขึ้นศาลและถูกไต่สวน แบบนี้น่าจะหนักกว่าการร้องของนายชาญชัยหรือเปล่า เพราะศาลท่านเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจนั้น ไม่เป็นไปตามคำตัดสินให้ทักษิณต้องจำคุก แม้ว่าจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ ลดโทษจาก 8 ปี เหลือ 1 ปี แต่ทักษิณด้วยการทำหน้าที่ของทางราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจนั้น อาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะทำให้การธำรงกระบวนการยุติธรรมของศาลได้รับความเสียหาย ศาลจึงให้มีการไต่สวน และการไต่สวนดังกล่าวอาจจะไม่เป็นผลดีกับคุณทักษิณ และเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ห้อง VVIP ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ แต่สื่อมวลชนไทย ไม่แน่ใจว่าพวกเขามีความรู้เรื่องกฎหมาย หรือพวกเขาฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด หรือพวกเขารู้ดี แต่จงใจบิดเบือนให้คนเข้าใจว่าทักษิณรอดแล้ว ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว เวลานี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าทักษิณจะรอดหรือไม่รอด เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจะรอดหรือไม่รอด เพราะจะต้องมีการไต่สวนตามที่ศาลมีคำสั่งให้แล้วเสร็จก่อน

คนที่อ่านการพาดหัวของสื่อบางราย ก็เข้าใจไปตามที่สื่อพาดหัวกันว่าศาลยกคำร้องของชาญชัย เหมือนจงใจสื่อว่าทักษิณรอดแล้ว ก็พากันโวยวายตำหนิศาลฎีกากันมากมายที่ยกคำร้องนายชาญชัย โดยไม่เข้าใจว่าศาลท่านยกคำร้อง เพราะนายชาญชัยไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่ศาลท่านเห็นว่าทักษิณละเมิดคำสั่งศาล ศาลท่านจึงอยู่ในฐานะเป็นผู้เสียหายเอง ท่านเลยรับคดีไว้เอง เพราะท่านเสียหายที่เมื่อท่านมีคำสั่งออกไปแล้ว ทักษิณไม่ทำตามที่ท่านสั่ง และอาจจะมีข้าราชการที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไปช่วยทักษิณให้ละเมิดคำสั่งศาล ไม่ยอมติดคุก ทั้งหมดนี้น่าจะทำให้ทักษิณและเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำให้ทักษิณได้อยู่ที่ห้อง VVIP ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจนานถึง 180 วัน ร้อนๆ หนาวๆ กันไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าหากเข้าใจแบบนี้แล้ว สลิ่มต้องเลิกโวยวาย และเลิกต่อว่าศาลได้แล้วนะ

สรุปก็คือ ศาลเห็นแล้วว่าคดีชั้น 14 มันเป็นความปรากฏว่ามีความไม่ชอบมาพากลที่สังคมมีข้อสงสัยในความผิดปกติ ศาลเห็นว่าการบังคับตามคำพิพากษาอาจไม่เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุด ศาลจึงใช้อำนาจไต่สวนและมีคำสั่งให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะกรมราชทัณฑ์ เรือนจำ โรงพยาบาลตำรวจให้ส่งหลักฐานและข้อเท็จจริงต่างๆ ให้ศาลภายใน 30 วัน และนัดไต่สวนใหม่ ในวันที่ 13 มิถุนายน คราวนี้ไม่ใช่แค่คนป่วยที่จะรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ บรรดาข้าราชการทุกคนที่เกี่ยวข้องด้วยก็คงต้องร้อนๆ หนาวๆ ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เราต้องไม่ลืมว่าคำสั่งศาลที่ให้พวกเขาส่งคำชี้แจงนั้น พวกเขาห้ามบิดพลิ้ว ต้องทำตามคำสั่งของศาล และถ้าหากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเป็นเช่นไร ก็ต้องรายงานตามความเป็นจริง จะส่งหลักฐานเท็จไม่ได้ ไม่เช่นนั้นแล้ว อาจจะมีความผิดเพิ่มอีกกระทงหนึ่งก็ได้

คนที่เคยท้อใจว่าทักษิณกำลังจะเป็นเจ้าของประเทศ สามารถทำอะไรได้ทุกอย่างตามที่ต้องการจะทำ อยากได้อะไร ก็จะได้ทุกอย่างตามที่อยากได้ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกผิดอย่างไร ทักษิณไม่มีวันที่จะเป็นผู้ผิด คงเลิกท้อได้แล้วนะ คนที่ถามหากรรมว่าเมื่อไหรนาฬิกากรรมจะเดินเร็วกว่านี้ ตอนนี้คงเห็นแล้วนะว่านาฬิกากรรมคงจะไม่เดินช้าแล้ว เพราะวันนัดของศาลไม่ได้เนิ่นนานเกินรอ และการไต่สวนของศาลนั้น ท่านสามารถเรียกหาหลักฐานพยานต่างๆ ได้จากทุกแหล่งข้อมูล ไม่จำเป็นต้องเอามาจากโจทก์และจำเลยเท่านั้น ข้อมูลเวชระเบียนจากแพทยสภาก็น่าเป็นหลักฐานที่สำคัญให้เราได้รู้ว่าทักษิณป่วยจริงหรือป่วยทิพย์ ใจชื้นกันบ้างแล้วยังคะ.

The post เพราะไม่รู้กฎหมาย…จึงโวยวายกันลั่น appeared first on .

You may also like...

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *