จะเสียท่า ‘กัมพูชา’ อีกรอบ

คือ….

อย่าว่าคิดเล็กคิดน้อย หยุมหยิม กับ นายกฯ แพทองธาร เลยนะครับ

เพราะการเป็นผู้นำประเทศมันต้องละเอียด

จะพูดจาอะไร อย่าทิ้งร่องรอยของความผิดพลาดไว้บ่อยนัก

เพราะบ่อยไป มันสะท้อนให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีไม่มีความรู้

ที่สาหัสคืออะไรรู้มั้ยครับ

ไม่มีความรู้พื้นฐานในหลายๆ เรื่องเลย

ก่อนนี้…เรื่องน้ำเชียงใหม่ไหลลงแม่น้ำโขง มันเป็นเรื่องน่าอับอายนะครับ

วันประชุมคณะรัฐมนตรีล่าสุดคือ ๒๙ ตุลาคม ก็เอาอีกแล้ว

แถลงข่าวออกทะเล!

หลายคนอ่านผ่านๆ คงไม่เห็นว่ามันผิด

ลองอ่านอีกครั้งครับ

“…วันนี้เป็นบรรยากาศต้อนรับฤดูหนาว ซึ่งฤดูหนาวของไทย อาจจะไม่ได้หนาวมากแต่กิจกรรมแน่นแน่นอน

จากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวไป เราจะมีกิจกรรมต่างๆ มากมายทั่วประเทศไทย เราจะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าเที่ยวตลอดทั้งปี เพราะเราทราบกันดีอยู่กันแล้วว่าช่วงฤดูหนาว และช่วงสุดท้ายของปี ทุกที่ทั่วโลกก็จะน่าเที่ยว

ประเทศไทยก็ต้องทำให้เป็นที่น่าเที่ยว

ดิชั้นมั่นใจว่าประเทศของเรามีเสน่ห์มากพอและมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ มีอาหารอร่อย เสน่ห์ของเมืองไทยมีมากมาย อยู่ที่ว่าคนไทยทุกคนจะร่วมมือกันอย่างไร มีเสน่ห์ดึงดูดให้คนทั่วโลกมาเที่ยวประเทศไทย

ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงมกราคมปีหน้า เราจะจัดเทศกาลฤดูหนาวทั่วประเทศ

ไม่ว่าจะไปจังหวัดไหนของประเทศก็มีที่เที่ยวแน่นอน

อย่างเทศกาลลอยกระทงที่จังหวัดต่างๆ ก็จัดไม่เหมือนกัน เพราะมีพื้นเมืองไม่เหมือนกัน เมื่อจัดหลายที่ก็ทำให้มีประสบการณ์จากหลายๆ ที่ได้

นี่คือสิ่งที่เราพยายามจะโปรโมต…”

เจ้าแม่ “ซอฟต์แพเวอร์” ขนานแท้เลยครับ

มาเป็นแพจริงๆ

ประเทศไทยมีฤดูหนาวจริงครับ แต่ไม่ใช่ทุกภาคของไทยจะมีฤดูหนาว

ภาคใต้นี่ ฝนแปดแดดสี่ จะหนาวก็ตรงที่ไม่มีเงินใช้นี่แหละครับ

แต่นายกฯ “ซอฟต์แพเวอร์” จะจัดงานฤดูหนาวทั่วประเทศไทย

เอาอวัยวะส่วนไหนคิดครับ?

 หรือต้องโทษทีมงาน เขียน เว้น วรรค ตอน ให้นายกฯ แบบผิดๆ

นายกฯ ก็เลยผิดตาม เพราะไม่รู้ว่าภาคใต้ไม่มีฤดูหนาว

ย้ำอีกที อย่าหาว่าจุกจิก จับผิดเล็กๆ น้อยๆ

มันเล็กน้อยจริง แต่ไม่ควรผิด

ความรู้เรื่องภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศ ขั้นพื้นฐาน คนเป็นนายกรัฐมนตรี ควรจะนำมาใส่สมองบ้าง อย่าปล่อยให้ว่างเปล่านัก เพราะวันหนึ่งต้องเจอเรื่องยากๆ จะทำอะไรไม่ถูก

นอกจากว่าตามโพย

อย่าคิดว่าไม่สำคัญนะครับ โดยเฉพาะเรื่องภูมิศาสตร์ของประเทศไทย

เผือกร้อนก็ใกล้ถึงมือนายกฯ แล้วล่ะครับ

พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ที่ไม่ควรทับซ้อนมาตั้งแต่แรก เพราะรัฐบาลพ่อดันไปทำ MOU44 กับกัมพูชา       รัฐบาลลูกจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่ได้เด็ดขาด

เพราะ พ่อ เป็นคนบอกเองว่า เป็นผู้ครอบครอง

วันที่นายกฯ “ซอฟต์แพเวอร์” แถลงนโยบาย วันนั้นได้บอกกับรัฐสภาว่า จะเจรจาประเด็นพื้นที่ทับซ้อนกับกัมพูชา (OCA) เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน

ก็เจรจาภายใต้กรอบ MOU44 นี่แหละครับ

ที่จริงมีความพยายามยกเลิก MOU44 โดยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี ๒๕๕๒

คณะรัฐมนตรีขณะนั้นมีมติเห็นชอบในหลักการให้ยกเลิก MOU 2544 และให้นำเรื่องเสนอต่อรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบ 

โดยให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ 

เหตุผลที่ยกเลิกหรือครับ

ก็เพราะรัฐบาลฮุน เซน แต่งตั้ง “ทักษิณ” ที่ขณะนั้นล่องลอยเป็นสัมภเวสี เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ

รัฐบาลไทยกลัวถูก “ทักษิณ” ล้วงตับ!

แต่น่าเสียดายครับ เพราะวิกฤตการเมืองมีการเผาบ้านเผาเมือง MOU 2544 ยังไม่ถูกยกเลิก

กระทั่งถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ประกาศเป็นเรื่องเป็นราวเลยครับ ไม่ยกเลิก MOU 2544 

นายกฯ “ซอฟต์แพเวอร์” ตามมาครับ เพราะถึงวิชาภูมิศาสตร์บทที่ยากแล้ว

เห็น “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ตำแหน่งจริงคือ ผู้ประกบนายกฯ “ซอฟต์แพเวอร์” ไม่ให้ปล่อยไก่ แต่ก็หลุดมาเป็นเล้าแล้ว ออกมาพูดย้ำเรื่้องเกาะกูดเป็นของไทย ก็ถูกต้องครับ แต่แน่ใจหรือว่า กัมพูชา จะคิดเหมือนกัน

ไม่คิดบ้างหรือว่า กัมพูชา ซ่อนไพ่ไว้ข้างหลัง เพราะรัฐบาลไทยมักชะล่าใจว่า ไม่มีทางที่จะเสียดินแดนให้กัมพูชาอีก

บทเรียนคือ ปราสาทพระวิหาร แพ้เพราะชะล่าใจ ไม่ทำอะไรให้ถูกต้องเสียตั้งแต่แรก กลายเป็นต้องเดินตามหลังกัมพูชา              

มันมีเหตุผลครับว่าทำไมต้องยกเลิก MOU 2544 

ไทยกับกัมพูชา เป็นภาคีของอนุสัญญาเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. ๑๙๕๘ เมื่อปี ๒๕๐๓ และ ๒๕๑๑ ตามลำดับ

แต่ กัมพูชา มักลากเส้นตามใจชอบ

การกำหนดเส้นเขตไหล่ทวีปในส่วนที่มีฝั่งทะเลตรงข้ามกับไทย แม้กัมพูชาจะใช้เส้นมัธยะ (Median Line) ตามอนุสัญญาเจนีวา แต่เส้นฐานตรงที่ใช้วัดความกว้างของทะเลอาณาเขตซึ่งใช้เป็นเส้นอ้างอิงในการกำหนดเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชานั้น ไม่เป็นไปตามอนุสัญญาเจนีวา 

เนื่องจากกัมพูชาใช้หินกัสโรเวีย (Kusrovie) และหินคอนดอร์ (Condor) ซึ่งไม่ใช่เกาะ แต่เป็นโขดหินที่โผล่พ้นน้ำเฉพาะเมื่อน้ำทะเลลดและอยู่ห่างจากฝั่งมาก เป็นจุดฐานของตรงเส้นฐานดังกล่าว            

ลากเส้นแบบนี้ไทยเสียหายเยอะครับ เพราะมีผลทำให้เส้นเขตไหล่ทวีปที่กัมพูชาอ้างสิทธิขยายกว้างออกไปกว่าที่ควรจะเป็นอย่างมาก 

กินพื้นที่เข้ามาในฝั่งไทยเยอะ!  

ต่างจากกรณีเกาะโลซิน เกาะที่เล็กที่สุดของไทย เป็นเกาะหินปูน กลางอ่าวไทย ที่ทำให้ไทยได้ประโยชน์มหาศาล และมาเลเซียก็ยอมรับตามกติกา

ฉะนั้นใครที่ยังยืนยันว่า เกาะกูด เป็นของไทย มีคนไทยอยู่ พูดภาษาไทย มีสถานที่ราชการไทยตั้งอยู่ ทุกอย่างเป็นไทยหมด ก็ระวังเอาไว้

ก็เหมือนที่เข้าใจว่าปราสาทพระวิหารเป็นของไทย ขึ้นทางไทย มีหน่วยทหารไทยตั้งอยู่

สุดท้ายก็อย่างที่เห็น

นายกฯ “ซอฟต์แพเวอร์” กลับไปทำความเข้าใจด้วยนะครับ

เตือนไว้ก่อน เรื่องนี้จะเป็นชนวนล้มรัฐบาลได้มากที่สุด ณ เวลานี้

อยากอยู่จัดงานฤดูหนาวที่ภาคใต้ ก็ไปคุยกับพ่อให้รู้เรื่อง

เอาให้ชัด “ฮุน เซน” ไม่ใช่พ่อ.

The post จะเสียท่า ‘กัมพูชา’ อีกรอบ appeared first on .

You may also like...