ทรัมป์ปิดท้ายตะวันออกกลางในอาบูดาบี แลกสัญญาการลงทุนมหาศาล
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ปิดท้ายการทัวร์ตะวันออกกลางในอาบูดาบี หลังจากลงนามข้อตกลงมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์อีกชุดหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ได้รับคำมั่นสัญญาการลงทุนมูลค่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา (ที่ 2 จากซ้าย) และชีค โมฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัล-นาห์ยาน ประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ที่ 2 จากขวา) จับมือกันหลังลงนามในข้อตกลงการลงทุน ที่อาบูดาบี เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม (Photo by Ryan CARTER / UAE PRESIDENTIAL COURT / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม 2568 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เดินทางถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นปลายทางสุดท้ายของภารกิจทัวร์ตะวันออกกลาง พร้อมลงนามข้อตกลงมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในการแลกเปลี่ยนการลงทุนระหว่างสองรัฐ
จำนวนเงินมหาศาลในการลงทุนยังมาพร้อมกับการยื่นมือเข้าช่วยเหลือซีเรียและความหวังใหม่เกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน โดยรวมแล้วถือว่าภารกิจของผู้นำสหรัฐฯประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
การเยือนต่างประเทศครั้งแรกในวาระที่สอง ทรัมป์ได้กำกับดูแลคำสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้งมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์จากสายการบินกาตาร์แอร์เวย์และการลงทุนมูลค่า 600,000 ล้านดอลลาร์จากซาอุดีอาระเบีย ซึ่งรวมถึงการซื้ออาวุธมูลค่าเกือบ 142,000 ล้านดอลลาร์ที่ทำเนียบขาวระบุว่าเป็นข้อตกลงด้านอาวุธมูลค่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ทรัมป์ยังแสดงความหวังที่จะบรรลุข้อตกลงใหม่กับอิหร่านเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ และตัดสินใจยกเลิกการคว่ำบาตรซีเรียที่ดำเนินมายาวนานหลายทศวรรษด้วยการเปลี่ยนแปลงทางการทูตครั้งสำคัญ
ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัล-นาห์ยาน ประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยกย่องความร่วมมืออันแข็งแกร่งระหว่างสองประเทศที่เติบโตขึ้นภายใต้การนำของทรัมป์ โดยเขาให้คำมั่นว่าจะลงทุนจำนวน 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในเศรษฐกิจสหรัฐเป็นเวลา 10 ปี
ทำเนียบขาวกล่าวว่าทั้งสองประเทศได้ลงนามข้อตกลงทางธุรกิจมูลค่ากว่า 200,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึงความร่วมมือมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์กับบริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี และคำสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้งมูลค่า 14,500 ล้านดอลลาร์จากสายการบินเอทิฮัดแอร์เวย์ส
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าทั้งสองประเทศได้ลงนามข้อตกลงด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะลงทุนในศูนย์ข้อมูลของสหรัฐ และจะปรับระเบียบข้อบังคับด้านความมั่นคงแห่งชาติให้สอดคล้องกับสหรัฐฯมากขึ้น รวมทั้งให้การคุ้มครองที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการนำเทคโนโลยีที่มีแหล่งกำเนิดจากสหรัฐฯไปใช้ในทางที่ผิด
“พวกคุณเป็นประเทศที่น่าทึ่ง พวกคุณเป็นประเทศที่ร่ำรวย พวกคุณมีทางเลือก และผมรู้ว่าพวกคุณจะไม่มีวันละทิ้งสหรัฐฯ” ทรัมป์กล่าวกับประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
“นั่นคือการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดที่พวกคุณเคยทำมา และเราซาบซึ้งใจมาก” เขากล่าวเสริม และย้ำว่าเขาจะปฏิบัติต่อสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างดีเยี่ยม เพราะชีค โมฮัมเหม็ดเป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยมมาก
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำลังแสวงหาการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญญาประดิษฐ์ เพื่อช่วยกระจายความหลากหลายทางเศรษฐกิจที่พึ่งพาน้ำมันแต่เพียงอย่างเดียว
ความทะเยอทะยานดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่การเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงของสหรัฐฯ รวมถึงชิป AI ภายใต้ข้อจำกัดการส่งออกที่เข้มงวด ซึ่งชีค ทาห์นูน บิน ซายิด พี่ชายของประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และหัวหน้าหน่วยข่าวกรอง ได้ล็อบบี้เรื่องนี้ระหว่างการเยือนวอชิงตันในเดือนมีนาคม
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ทรัมป์ได้ยกเลิกการควบคุมเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิป AI ซึ่งกำหนดโดยอดีตประธานาธิบดีเพื่อทำให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงได้ยากขึ้น
ในซาอุดีอาระเบีย, กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทรัมป์ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและกล่าวชื่นชมผู้นำอาหรับทั้งสามคนเป็นการตอบแทน
เขากล่าวว่า ตัวเขาและมกุฏราชกุมารซาอุดีอาระเบียต่างชื่นชมกันอย่างมาก ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับความสัมพันธ์ที่เย็นชาระหว่างซาอุดีอาระเบียและสหรัฐฯ ในสมัยของโจ ไบเดน
ทรัมป์ยังเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกในรอบ 25 ปีที่ได้พบกับผู้นำซีเรีย หลังจากประกาศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร
ขณะที่ข้อตกลงเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเข้าใกล้ความเป็นจริงในทุกขณะ ซึ่งจะช่วยป้องกันการดำเนินการทางทหารได้
ทรัมป์กล่าวว่าการเดินทางครั้งนี้ส่งผลให้ได้รับเงินหลายล้านล้านดอลลาร์ แต่ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของบรรดาผู้นำกลุ่มอ่าวเปอร์เซียก็ก่อให้เกิดความขัดแย้งเช่นกัน โดยกาตาร์เสนอเครื่องบินหรูให้ทรัมป์เพื่อใช้เป็นแอร์ฟอร์ซวันลำใหม่ จนกลายเป็นประเด็นการเมืองที่ฝ่ายตรงข้ามกล่าวหาว่าเขาทุจริต.
The post ทรัมป์ปิดท้ายตะวันออกกลางในอาบูดาบี แลกสัญญาการลงทุนมหาศาล appeared first on .
