ทรัมป์ลงนามคำสั่งกำจัด ‘คตินิยมข้ามเพศ’ ออกจากกองทัพ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อกำจัดสิ่งที่เขาเรียกว่า “คตินิยมข้ามเพศ” ออกไปจากกองทัพ ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญต่อสิทธิของกลุ่ม LGBTQ

พีท เฮกเซธ กล่าวสุนทรพจน์หลังจากสาบานตนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ คนใหม่ ณ อาคารสำนักงานบริหารไอเซนฮาวร์ ทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 25 มกราคม (Photo by ROBERTO SCHMIDT / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 28 มกราคม 2568 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารให้ดำเนินการกำจัด ‘คตินิยมข้ามเพศ’ ออกไปจากการทำงานในกองทัพ

ทรัมป์ลงนามชุดคำสั่งดังกล่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน และยังเรียกร้องให้มีการสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธ ‘ไอรอนโดม’ ของอิสราเอลในเวอร์ชันอเมริกาอีกด้วย

ทรัมป์มุ่งมั่นจะสร้างระบบไอรอนโดมรุ่นเดียวกับที่อิสราเอลใช้ยิงสกัดขีปนาวุธที่กลุ่มฮามาสยิงมาจากฉนวนกาซาและที่กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ยิงมาจากเลบานอน

แต่เขามองข้ามข้อเท็จจริงที่ว่าระบบดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อโจมตีระยะใกล้ จึงไม่เหมาะกับการป้องกันขีปนาวุธข้ามทวีปซึ่งเป็นอันตรายหลักต่อสหรัฐอเมริกา

ทรัมป์เลยประกาศว่า “เราจำเป็นต้องเริ่มก่อสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธ ‘ไอรอนโดม’ ที่ทันสมัยทันที และระบบดังกล่าวจะผลิตขึ้นที่นี่ในสหรัฐอเมริกา”

ผู้นำจากพรรครีพับลิกันยังได้ลงนามคำสั่งเพิ่มเติมเพื่อรับทหารที่ถูกไล่ออกเพราะปฏิเสธที่จะฉีดวัคซีนโควิดกลับเข้าประจำการอีกครั้ง และขยายการปราบปรามของรัฐบาลต่อโครงการความหลากหลายของกองกำลังทหารให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

“เพื่อให้แน่ใจว่าเรามีกำลังรบที่อันตรายที่สุดในโลก เราจะต้องกำจัดพวกที่มีคตินิยมข้ามเพศออกไปจากกองทัพของเรา” ทรัมป์กล่าว

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยสัญญาที่จะนำคำสั่งห้ามคนข้ามเพศรับราชการกลับมาใช้ และกล่าวโทษการรับรองความหลากหลายทางเพศที่รณรงค์กันมาตลอด

ในคำสั่งของเขา ทรัมป์อ้างว่ากองทัพต้องเผชิญกับแนวคิดเรื่องเพศที่รุนแรงเพื่อเอาใจนักเคลื่อนไหว และสภาวะสุขภาพจิตและร่างกายหลายอย่างของบุคคลเหล่านั้นไม่เหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่

คำสั่งดังกล่าวระบุว่า “การยอมรับอัตลักษณ์ทางเพศที่ไม่สอดคล้องกับเพศของบุคคลนั้นขัดต่อความมุ่งมั่นของทหารที่จะดำเนินชีวิตอย่างมีเกียรติ, ซื่อสัตย์ และมีระเบียบวินัย แม้แต่ในชีวิตส่วนตัวก็ตาม”

“การที่ผู้ชายยืนยันว่าเขาเป็นผู้หญิง และความต้องการของเขาที่เรียกร้องให้ผู้อื่นเคารพต่อความเท็จนี้ ไม่สอดคล้องกับความอ่อนน้อมถ่อมตนและความเสียสละที่ทหารจำเป็นต้องมี”

ในคำสั่งแยก ทรัมป์อ้างว่าโครงการความหลากหลายในกองทัพนั้นเป็นการบ่อนทำลายความเป็นผู้นำ, ความดีความชอบ และความสามัคคีของหน่วยงาน จนส่งผลให้ความหนักแน่นและความพร้อมของกองกำลังลดประสิทธิภาพลง”

ทรัมป์ยังสั่งห้ามกระทรวงกลาโหมและกองกำลังติดอาวุธไม่ให้ส่งเสริมทฤษฎี “ที่ไม่ใช่ของอเมริกา” ที่ระบุว่าเอกสารก่อตั้งประเทศอเมริกามีการเหยียดเชื้อชาติหรือแบ่งแยกเพศ หรือส่งเสริมการอภิปรายเกี่ยวกับ “อุดมการณ์ทางเพศ”

คำสั่งดังกล่าวเป็นหนึ่งในหลายๆประเด็นที่เกิดขึ้นหลังเริ่มต้นสัปดาห์ที่สองของทรัมป์ในการกลับสู่ทำเนียบขาว และในวันนั้น มีการจัดพิธีต้อนรับที่กระทรวงกลาโหมสำหรับพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งเป็นอดีตทหารผ่านศึกและบุคคลที่มีชื่อเสียงจากฟ็อกซ์นิวส์ (Fox News) ของเขาเอง

“ขอขอบคุณท่านประธานาธิบดีที่เป็นผู้นำในการดำเนินการเรื่องนี้ เราจะสานต่อแนวทางนั้น” ตามการระบุของเฮกเซธซึ่งได้รับการอนุมัติตำแหน่งจากรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วท่ามกลางข้อกังวลเกี่ยวกับความไม่มีประสบการณ์, มีประวัติการดื่มหนัก และใช้ความรุนแรงในครอบครัว

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชาวอเมริกันข้ามเพศต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายเกี่ยวกับการรับราชการทหารที่หลากหลาย ทั้งที่ฝ่ายบริหารของพรรคเดโมแครตพยายามอนุญาตให้พวกเขารับราชการทหารได้อย่างเปิดเผย ในขณะที่ทรัมป์พยายามหลายครั้งที่จะไม่ให้คนกลุ่มนี้เข้ารับราชการทหาร

ในปี 2016 กองทัพสหรัฐฯ ยกเลิกกฎห้ามทหารข้ามเพศรับราชการทหาร ในช่วงที่บารัค โอบามา ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง

แต่รัฐบาลทรัมป์ชุดแรกได้ระงับนโยบายดังกล่าว ก่อนตัดสินใจยกเลิกทั้งหมดในท้ายที่สุด ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มสิทธิมนุษยชน

โจ ไบเดน ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากทรัมป์ กลับมาอนุมัติหลักการดังกล่าวอีกครั้ง เพียงไม่กี่วันหลังจากที่เขารับตำแหน่งในปี 2021 โดยกล่าวว่าชาวอเมริกันทุกคนที่มีคุณสมบัติ มีสิทธิ์ที่จะทำเช่นนั้นได้

แม้ว่าจำนวนทหารข้ามเพศในกองทัพสหรัฐจะค่อนข้างน้อย โดยมีการประมาณการว่ามีอยู่ราวๆ 15,000 นายจากทหารในเครื่องแบบทั้งหมดกว่า 2 ล้านนาย แต่การปลดพวกเขาออกจะทำให้กองทัพสหรัฐมีกำลังลดลงในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังเผชิญกับความยากลำบากในการสรรหาบุคลากรใหม่ .

ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมของไบเดน ดูเหมือนจะวิพากษ์วิจารณ์แผนการของทรัมป์ระหว่างการปราศรัยอำลาเมื่อต้นเดือนนี้ โดยกล่าวว่า “กองทัพใดก็ตามที่ปฏิเสธผู้รักชาติที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและกระตือรือร้นที่จะรับใช้ชาติแล้วล่ะก็ เท่ากับว่ากำลังทำให้กองทัพอ่อนแอลง”

ปัญหาเรื่องคนข้ามเพศทำให้เกิดความไม่สงบทางการเมืองในสหรัฐอเมริกาช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันได้เคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกันในนโยบายต่างๆ ตั้งแต่การรักษาทางการแพทย์ไปจนถึงหนังสือเกี่ยวกับหัวข้อดังกล่าวที่อนุญาตให้นำเข้าไปในห้องสมุดสาธารณะหรือห้องสมุดโรงเรียนได้.

The post ทรัมป์ลงนามคำสั่งกำจัด ‘คตินิยมข้ามเพศ’ ออกจากกองทัพ appeared first on .