นักวิชาการ เตือน ครม. หากเห็นชอบ ‘กาสิโน’ เสี่ยงโดนร้องผิดมาตรฐานจริยธรรม

ยังต้องลุ้น คลัง เอาร่างกม.กาสิโนเข้าครม.พรุ่งนี้หรือไม่ นักวิชาการเตือน หากเห็นชอบ เสี่ยงโดนร้องเอาผิดมาตรฐานจริยธรรมฯ ชี้พฤติกรรมเข้าข่ายองค์ประกอบความผิด พบพรรคพท.ไม่เคยแจ้งนโยบายเปิดเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์กับกกต.-ไม่ได้จัดให้มีการศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้าน ก่อนเปิดบ่อนถูกกฎหมาย  

10 มี.ค.2568-รศ.ดร.ชิดตะวัน  ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงกรณีมีรายงานก่อนหน้านี้ว่า วันอังคารที่ 11 มีนาคม นี้ ร่างพ.ร.บ.การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. อาจจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า เนื่องจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) กำลังจะมีมติเห็นชอบในเรื่องที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ รวมถึงแต่ละพรรคการเมืองไม่เคยชูว่า จะมีบ่อนกาสิโนบนแผ่นดินไทยในการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2566 และนโยบายดังกล่าวมีผลเสียต่อสังคมและเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง มีตัวอย่างความหายนะของประเทศต่าง ๆ จากการที่รัฐบาลอนุญาตให้มีธุรกิจกาสิโนในขณะที่ประเทศยังไม่มีความพร้อม จนทรัพยากรมนุษย์ถูกทำลาย สังคมและเศรษฐกิจย่อยยับ ประชาชนหลายกลุ่มจึงจะมีการจัดการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุตินโยบายดังกล่าว ซึ่งการชุมนุมของประชาชนเป็นเสรีภาพที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 44

นอกจากนี้ ได้ทราบว่า หากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพรบ.ที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ก็จะมีประชาชนไปยื่นเรื่องต่อองค์กรอิสระ อาทิ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการตามอำนาจและหน้าที่ซึ่งบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 234 (1) กรณีนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อํานาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เพื่อดําเนินการต่อไปตามรัฐธรรมนูญ

รศ.ดร.ชิดตะวันกล่าวว่า สำหรับกรณีคณะรัฐมนตรีชุดนี้ จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อํานาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เกี่ยวกับนโยบายกาสิโนและการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย มีหลายกรรมหลายวาระ

อาทิ 1.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 77 วรรคท้าย บัญญัติว่า “รัฐพึงใช้ระบบอนุญาตและระบบคณะกรรมการในกฎหมายเฉพาะกรณีที่จําเป็น พึงกําหนดหลักเกณฑ์การใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ของรัฐและระยะเวลาในการดําเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ที่บัญญัติไว้ในกฎหมายให้ชัดเจน..” เมื่อพิจารณาร่างพรบ.การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ…. ฉบับล่าสุด ที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีพบว่า มีการใช้ระบบอนุญาตและระบบคณะกรรมการในกฎหมาย อาทิ มาตรา 15 (5) และ (6) ให้คณะกรรมการนโยบายมีอำนาจและหน้าที่พิจารณาและออกคำสั่งเกี่ยวกับการออกใบอนุญาต และกำหนดพื้นที่ของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร โดยทั้ง 2 กรณีหาใช่กรณีจำเป็นที่จะต้องมีการใช้ระบบอนุญาต สำหรับมาตรา 15(3) ซึ่งให้อำนาจและหน้าที่คณะกรรมการนโยบายเสนอแนะอัตราภาษีที่เกี่ยวข้องกับกาสิโนต่อคณะรัฐมนตรี ก็เป็นกรณีที่ฝ่าฝืนมาตรา 77 เช่นกัน นอกจากนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้หาได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์การใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐไว้ในกฎหมายอย่างชัดเจนแต่อย่างใด

2.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 3 วรรค 2 บัญญัติว่า  “รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม” การที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แก้ไขกฎหมายการพนัน เพื่อให้การพนันออนไลน์เป็นกิจกรรมถูกกฎหมาย พร้อมร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนถูกกฎหมายรวมอยู่ด้วย โดยที่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้รายงานนโยบายเหล่านี้ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามที่กฎหมายกำหนด (อาทิ ในรายงานเกี่ยวกับ 70 นโยบายหาเสียงเลือกตั้งปี พ.ศ. 2566 ของพรรคเพื่อไทย ตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ไม่ปรากฏว่า มีนโยบายเกี่ยวกับสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนถูกกฎหมาย หรือการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย หรือการนำธุรกิจใต้ดินมาอยู่บนดิน มีเพียงนโยบายที่ 54 คือ นโยบายเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว 3 ล้านล้านบาทต่อปี ซึ่งในรายละเอียดแจกแจงว่า เป็นการพัฒนาและสร้างโอกาสจากแหล่งการท่องเที่ยว ทั้งจากธรรมชาติและที่สร้างขึ้นเป็นแลนด์มาร์ค โดยไม่ได้ระบุว่า จะมีธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมายรวมอยู่ด้วยเลย) นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังมิได้จัดให้มีการศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้านของการนำการพนันกาสิโนเป็นกิจกรรมถูกกฎหมาย และไม่เคยจัดให้มีการศึกษาใด ๆ เกี่ยวกับผลกระทบของการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ตามวิสัยของผู้ออกนโยบายสาธารณะพึงกระทำ

“ทั้งหมดนี้ จึงเป็นกรณีที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม  เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 3 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญ 2560 มติ ครม.ในเรื่องนี้จึงไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ และเนื่องจากได้มีการท้วงติงจากนักวิชาการ และภาคประชาสังคมหลายครั้ง ถึงมติครม.ที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญดังกล่าว แต่การที่คณะรัฐมนตรีกลับเพิกเฉย และยังดึงดันมีมติเห็นชอบร่างพรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนถูกกฎหมายรวมอยู่ด้วย ย่อมเป็นกรณีที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จงใจใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย รวมถึงไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เพราะนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคหรือสมาชิกพรรคย่อมรู้ หรือควรรู้ได้ว่า พรรคของตนมีการรายงานนโยบายใดบ้างต่อ กกต. ตามที่กฎหมายกำหนด แต่ยังดึงดันมีมติเห็นชอบเกี่ยวกับกาสิโนและการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ซึ่งเป็นนโยบายที่ไม่ได้มีการระบุไว้ในรายงานต่อ กกต. ตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น จึงเข้าข่ายมีพฤติกรรมขาดความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงด้วย”