บุกประชิดทำเนียบ ‘ขาประจำ’ ฮือถอนเขี้ยวทักษิณ!
คปท.บุกทำเนียบ ยื่นหนังสือถึง นายกฯอิ๊งค์ จี้ใช้อำนาจสะสางคดีการบังคับโทษ กรณี ‘ทักษิณ’ รักษาตัวอยู่ชั้น 14 พร้อมคัดค้าน ‘บ่อนกาสิโน-พนันออนไลน์’
21 ม.ค. 2568 – ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และเครือข่ายกองทัพธรรม นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. นัดมวลชนรวมตัวยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านการทำบ่อนคาสิโนถูกกฎหมาย และพนันออนไลน์ รวมถึงการให้นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจในการสะสางคดีบริหารกระบวนการบังคับโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีการรักษาตัวชั้น 14 และสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งเวชระเบียนให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ มีมวลชนกว่าร้อยคน ซึ่งบางส่วนสวมนกหวีด พร้อมมือตบ และโบกธงชาติไทย พร้อมด้วยป้ายข้อความคัดค้านกาสิโน พนันออนไลน์ และเรื่องการรักษาตัวของนายทักษิณ เข้าร่วมฟัง
แกนนำหลายคนที่สลับกันปราศรัย อาทิ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี, ผศ.นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นักเคลื่อนไหวทรงการเมือง, รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการทางกฎหมาย ประธานหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย รวมถึงมี พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) มาร่วมฟังการปราศรัยในครั้งนี้ด้วย
นายพิชิต กล่าวถึงกรณีของนายทักษิณ ว่าจากการพูดคุยกันภายใต้สถานการณ์กระบวนการยุติธรรมที่ถูกบิดเบี้ยวโดย นายทักษิณ ที่บอกว่าป่วยวิกฤตมา 180 วัน แต่นายทักษิณกลับขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง บอกว่าจะอยู่อีก 40 ปี แต่ลืมไปว่าเมื่อปีที่แล้วป่วยจะตาย
“ดังนั้นกระบวนการยุติธรรมจึงถูกสังคมตั้งคำถาม ไม่ใช่แค่บุคลากรของกระบวนการยุติธรรมเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกระบวนการทางการแพทย์ เพราะหากป่วยวิกฤตจริง อาการจะไม่ใช่แบบนายทักษิณในปัจจุบันอย่างแน่นอน”
นายพิชิต ยังทวงถามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ โรงพยาบาลตำรวจ ส่งเวชระเบียนให้กับ ป.ป.ช. แต่เมื่อไม่ได้จึงต้องมาพบนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เร่งดำเนินการ และใช้ตำแหน่งเพื่อผดุงไว้ซึ่งระบบนิติรัฐ นิติธรรมของประเทศไทย และทำให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้า
“ท้ายที่สุดเราก็ต้องมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะว่านายกรัฐมนตรีโดยตำแหน่ง ไม่ใช่ว่าคุณใช้ตำแหน่งลูกสาวของทักษิณ ชินวัตร คุณต้องใช้ตำแหน่งในฐานะนายกรัฐมนตรีเพื่อผดุงไว้ซึ่งระบบนิติรัฐ นิติธรรมของประเทศไทย ตำแหน่งลูกสาวคุณไปคุยกันที่บ้าน แต่วันนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล คุณคือตำแหน่งนายกรัฐมนตรี” นายพิชิต กล่าว
ขณะที่ นพ.วรงค์ ได้ฝากถึงนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องร่วมรับผิดชอบเรื่องนักโทษชั้น 14 เพราะที่ผ่านมาประชาชนรอมาปีกว่า จนนายทักษิณออกจากโรงพยาบาล และกำลังอาละวาดประเทศไทย ซึ่งต้องให้ประชาชนช่วยกันต้านให้กลับไปที่คุก รวมทั้งข้อมูลที่พวกตนจะเสนอในตอนนี้ เป็นข้อมูลที่เราปรึกษาหารือกับแพทย์หลายๆ คน ที่จะสรุปว่า “ละครชั้น 14 ไม่เนียน”
อีกทั้ง การที่โรงพยาบาลตำรวจอ้างว่า ส่งเวชระเบียนมาบางส่วน แต่ในทางการแพทย์ถือว่า ไม่มี เพราะทุกอย่างต้องอยู่ในแฟ้มหรือไฟล์ผู่ป่วยคนเดียวกัน จะแยกส่งไม่ได้ จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีลงมาจัดการเรื่องนี้ก่อนที่จะสายเกินไป เพราะสิ่งนี้คือความไม่ปกติของการดูแลนักโทษชั้น 14 ตั้งแต่ราชทัณฑ์ไปจนถึงโรงพยาบาลตำรวจ
นพ.วรงค์ ยังกล่าวถึงโรคของนายทักษิณว่าเป็นโรคเสื่อมสภาพตามอายุ ไม่ใช่โรควิกฤต รวมทั้งแพทนเวรในคืนวันย้ายนายทักษิณ ก็เป็นแพทย์เวรอายุรกรรมที่สามารถตรวจรักษาโรคหัวใจ และความดันโลหิตสูงได้ แต่ทำไมถึงไม่มาตรวจรักษาในคืนนั้น แต่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และเรือนจำฯ กลับส่งนายทักษิณไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจทันที จึงถือเป็นละครฉากแรกในการส่งตัว และยังมีข้อมูลที่ย้อนแย้งกันคือเรื่องการรักษาเบื้องต้นของทั้งแพทย์โรงพยาบาลตำรวจกับโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และมีกระบวนการตัดต่อการรักษาที่อ้างว่าป่วยวิกฤต 180 วัน มาเป็นผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หรือช่วยตัวได้น้อย จึงต้องพักโทษกรณีพิเศษ ซึ่งถือว่าการโกหกประชาชน
“นายกรัฐมนตรี วันนี้พี่น้องประชาชนให้โอกาสคุณมาเยอะแล้ว เรื่องนี้คือเรื่องของกระบวนการยุติธรรม อย่าเอาพ่อมาอ้าง ถ้าคุณกังวลเรื่องพ่อ แต่ไม่ดูแลเรื่องกระบวนการยุติธรรม คุณออกไปเลย นี่คือบทสรุปเล็กๆน้อยๆ ที่ต้องการสื่อสารว่า สิ่งที่คุณทำมานั้นไม่เนียน และถ้าพวกคุณไม่จัดการ วันนึงคุณจะเจอเหตุการณ์ใหญ่กว่าวันนี้“ นพ.วรงค์ กล่าว
ด้าน ผศ.นพ. ตุลย์ กล่าวว่า การที่นายทักษิณไม่ติดคุกแม้แต้วันเดียว เป็นการขัดพระบรมราชโองการ และเป็นการทำลายคำพิพากษาของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงขอส่งเสียงไปถึงที่ประชุมศาล ให้ออกคำสั่งเรียกนายทักษิณ กลับไปติดคุก ซึ่งก็มีการร่วมมือกันของคนที่รับใช้นายทักษิณ ที่มีมาตั้งแต่ 4-5 ปีที่แล้ว และเริ่มมีการคิดตั้งแต่สมัยที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในสมัยที่ยังดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มีการแก้กฎกระทรวงต่างๆ เพื่อเอื้อนายทักษิณ
ผศ.นพ.ตุลย์ กล่าวถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คนปัจจุบัน ที่ดูแลกรมราชทัณฑ์ ที่ช่วยเอื้อให้นายทักษิณ ซึ่งมีความผิดตาม ม.157 พร้อมกล่าวว่า ”ปลายทางชีวิตของแก จะต้องอยู่ในคุกเท่านั้น“ และยังกล่าวถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ด้วยว่า ”อุ๊งอิ๊งถ้ารักพ่อแกมาก ทำหน้าที่ไม่ได้ ก็ลาออกไปดูแลพ่อที่บ้านเลย“
ส่วน รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าวว่า หลายๆ คนที่ต้องมาเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ออกมารับผิดชอบ เป็นเพราะมีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่รับผิดชอบต่อบ้านเมือง ซึ่งเรื่องทั้งหมดเริ่มมาจากอดีต คสช. ทั้งสิ้น และมาจนถึงวันนี้ พวกเขารับผิดชอบต่อบ้านเมืองหรือไม่ รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งพวกเขาทั้งหมดคุยกัน จึงอยากถามว่า ความรับผิดชอบของ อดีตคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อยู่ที่ไหน
ส่วนเรื่องกาสิโนถูกกฎหมาย รศ.ดร.เจษฎ์ ได้ตั้งคำถามว่า พรรคต่างๆ เหล่านี้จะรับผิดชอบอะไรบ้างหรือไม่ ซึ่งไม่มีบ้านเมืองไหนถ้าไม่สิ้นคิด ถึงจะเปิดคาสิโน พร้อมยกตัวอย่างประเทศต่างๆ ที่เปิดคาสิโนว่า เหตุใดถึงไม่เปิดทั่วเมือง ก็เพราะประเทศเขาไม่สิ้นคิด ซึ่งวันนี้เราต้องถามพรรคร่วมรัฐบาลถึงความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง
“อย่าลำพังแต่แค่แพทองธารหรือทักษิณ แค่คนสองคนนี้ทำไม่สำเร็จ บรรดาคนทั้งหลายนำโดย คสช. พรรคร่วมรัฐบาล แม้กระทั่งพรรคประชาชนที่อยู่ร่วมในรัฐสภา ก็ไม่ทำอะไร เท่ากับพวกพ่อแม่พี่น้องเลือกพวกเขามาเสียเปล่า ผมว่าถ้าประชาธิปไตยมันเป็นแบบนี้ ผมเสนอท้ายที่สุดเลิกประชาธิปไตยมันเถอะ ถ้าประชาธิปไตยมันชั่วแบบนี้ เลิกประชาธิปไตยกันเถอะครับ” รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าว
ขณะที่ นายจุตพร ได้ขึ้นกล่าวเป็นคนสุดท้าย โดยโจมตีไปที่นายทักษิณ ตั้งแต่วันที่เดินทวงกลับมาประเทศไทย ไปจนถึงการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ทั้งหมดคือความไม่ตรงไปตรงมา รวมถึงการพักโทษที่บอกว่าเป็นผู้สูงอายุช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่วันนี้กลับมาเป็นผู้ช่วยหาเสียง รวมถึงนายทักษิณคงลืมไปว่า เขาเคยยื่นถวายฎีกา และถูกบันทึกไว้ในพระบรมราชโองการว่าเคารพต่อกระบวนการยุติธรรม และยอมรับว่ากระทำความผิดจริง พร้อมรับโทษตามคำพิพากษา ดังนั้นนายทักษิณจะไปกล่าวอ้างว่าถูกกลั่นแกล้งยัดคดีได้อย่างไร
นายจตุพร ยังกล่าวถึง บ่อนกาสิโน และพนันออนไลน์ว่า ประเทศไทยเราจะต้องถูกแปรสภาพไปตลอดกาล ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่การสร้างชาติบ้านเมือง แต่คือการทำลายชาติบ้านเมือง และการทำพนันออนไลน์อาจทำให้เข้าถึงเยาวชน และเมื่อหมดเงิน ก็จะนำไปสู่การค้ายา และอาชญากรรมต่างๆ ได้ ซึ่งขอให้จำปากของตนไว้ว่า “บ่อนการพนันออนไลน์ บ่อนคาสิโน จะจบลงอย่างสุดซอย ชิบหายอย่างไรอย่างนั้น”
นายจตุพร ย้ำว่า เราเองพยายามที่จะสื่อความ และชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า นโยบายเรื่องบ่อนคาสิโน บ่อนพนันออนไลน์ ไม่ได้อยู่ในนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง แต่มางอก เพราะมันเต็มไปด้วยผลประโยชน์ และเป็นการทำลายคุณภาพประชากร ทั้งคาสิโน และพนันออนไลน์ เรามีหน้าที่จะต้องมาหยุดยั้ง ถ้าเขาไม่หยุดกระบวนการต่างๆ ในบ้านเมืองก็จะไม่หยุด จึงเป็นหน้าที่ของประชาชน ที่เราจะต้องมาหยุด
ภายหลังแกนนำกลุ่มได้กล่าวปราศรัยเสร็จ ได้เคลื่อนขบวนไปที่หน้าประตูทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงตัวแทนของรัฐบาล ซึ่งมีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือ ก่อนที่กลุ่ม คปท.จะร่วมกันอ่านแถลงการณ์.
The post บุกประชิดทำเนียบ ‘ขาประจำ’ ฮือถอนเขี้ยวทักษิณ! appeared first on .