ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาร่วมประชุมที่กรุงเทพฯ ขณะยอดเสียชีวิตแผ่นดินไหวทะลุ 3,000 ราย

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 4 เมษายน 2568 กล่าวว่า พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย หัวหน้าคณะรัฐประหารและผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาเดินทางมายังกรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมประชุมสุดยอดเอเชียใต้, เมียนมา และไทย โดยมีกำหนดหารือเกี่ยวกับการตอบสนองต่อเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในประเทศตน

มิน อ่อง หล่ายจะเข้าร่วมการประชุมบิมสเทค (BIMSTEC) ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศของ 7 ชาติในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเขาจะหารือเกี่ยวกับการตอบสนองฉุกเฉินต่อเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูดที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

เขาเดินทางมาถึงโรงแรมแชงกรีลาอันหรูหราซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุม โดยนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่ามีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

หลายประเทศได้ส่งความช่วยเหลือและทีมกู้ภัยไปยังเมียนมาหลังจากเกิดแผ่นดินไหว แต่โครงสร้างพื้นฐานได้รับความเสียหายอย่างหนัก, การสื่อสารที่ขาดคุณภาพและความเสถียร รวมถึงสงครามกลางเมืองที่โหมกระหน่ำ ทำให้ความพยายามดังกล่าวเป็นอุปสรรค

เมียนมาเผชิญกับความขัดแย้งหลายฝ่ายมาตั้งแต่ปี 2564 เมื่อกองทัพภายใต้บัญชาการของมิน อ่อง หล่ายแย่งชิงอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของอองซาน ซู จี

หลังจากมีรายงานว่ายังเกิดการปะทะกันเป็นระยะๆ ทั้งๆที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤตแผ่นดินไหว คณะทหารได้เห็นพ้องกับฝ่ายตรงข้ามในการยุติการสู้รบชั่วคราวเพื่อให้สามารถทุ่มเทกับภารกิจช่วยเหลือได้

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวที่นิวยอร์กว่า การสงบศึกในเมียนมาจะนำไปสู่การเริ่มต้นของการเจรจาทางการเมืองที่จริงจังและการปล่อยตัวนักโทษการเมืองโดยเร็ว

นักข่าวเอเอฟพีรายงานภาพเหตุการณ์วุ่นวายในเมืองสะกาย ซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวไม่ถึง 15 กิโลเมตร โดยผู้คนจำนวนมากต้องดิ้นรนเพื่อขอความช่วยเหลือจากอาสาสมัครพลเรือน

ทั้งนี้ ความเสียหายในเมืองสะกายเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง โดยอาคาร 80% พังถล่มหรือได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

ตลาดอาหารไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ และโรงพยาบาลต่างๆ เต็มไปด้วยผู้ป่วยที่บางส่วนต้องเข้ารับการรักษาในที่โล่งแจ้งท่ามกลางอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส

หากประเมินจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยรวมแล้ว อาจมีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้มากกว่า 3 ล้านคน

ผู้ประสบภัยกล่าวว่ายังคงขาดความช่วยเหลือ ทั้งๆที่ผ่านไปเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วหลังเกิดแผ่นดินไหว

ยังมีผู้คนจำนวนมากที่ต้องการมุ้งและผ้าห่ม และต้องนอนนอกบ้านเพราะแผ่นดินไหวที่ทำลายบ้านเรือนของพวกเขา

ในขณะที่ชาวเมืองสะกายกำลังแย่งน้ำและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มิน อ่อง หล่ายก็เตรียมนั่งรับประทานอาหารค่ำสุดหรูร่วมกับผู้นำคนอื่นๆ ที่โรงแรมแชงกรีลาซึ่งมีราคาห้องพัก 400 ดอลลาร์สหรัฐต่อคืน

ผู้นำของกลุ่ม BIMSTEC ซึ่งประกอบด้วยบังกลาเทศ, ภูฏาน, อินเดีย, เมียนมา, เนปาล, ศรีลังกา และไทย จะหารือเกี่ยวกับการค้า, ความมั่นคง และประเด็นอื่นๆ ในขณะที่เอเชียกำลังุกสั่นคลอนจากภาษีศุลกากรชุดใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ไทยซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพยังได้เสนอให้ผู้นำทั้งสองออกแถลงการณ์ร่วมกันเกี่ยวกับผลกระทบของภัยพิบัติแผ่นดินไหวเมื่อพบกันในวันศุกร์นี้

ฝ่ายต่อต้านและองค์กรสิทธิมนุษยชนวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของไทยในการเชิญมิน อ่อง หล่ายมาประชุม โดยกล่าวหาว่าเขาเป็นตัวการก่ออาชญากรรมสงครามในความขัดแย้งอันโหดร้ายของเมียนมา

การเข้าร่วมประชุมสุดยอดครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะทางการทูตของรัฐบาลเมียนมาที่ถูกโดดเดี่ยว เพราะเป็นการปฏิบัติที่ขัดกับนโยบายระดับภูมิภาคที่กำหนดไว้ว่าจะไม่เชิญผู้นำคณะรัฐประหารเข้าร่วมวาระสำคัญๆ

โฆษกกระทรวงต่างประเทศของไทยออกมาปกป้องการตัดสินใจครั้งนี้ โดยกล่าวว่าไทยมีความรับผิดชอบในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอด BIMSTEC ที่ต้องเชิญผู้นำ BIMSTEC ทุกคนเข้าร่วม

การเดินทางมาไทยของมิน อ่อง หล่าย เกิดขึ้นหลังจากที่โฆษกกองทัพกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า มีรายงานยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวแล้ว 3,085 ราย โดยมีผู้บาดเจ็บ 4,715 คน และยังมีผู้สูญหายอีก 341 คน.

You may also like...

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *