‘รมว.กลาโหม’ ลั่นแผนซื้ออาวุธสหรัฐฯ ต้องไม่กระทบแผนปฏิรูปกองทัพ
‘ภูมิธรรม’เผยแผนซื้ออาวุธสหรัฐฯ ต้องไม่กระทบแผนปฏิรูปกองทัพ ย้ำข้อเสนอ กู้เงินซื้อเอฟ16ไม่สามารถทำได้ รอผลเจรจาไทยก่อน ระบุ ครม.ยังไม่เคาะกริฟเพ้นท์ แค่ความต้องการ ทอ. แผนซื้อสไตรเกอร์เพิ่มต้องรอดูงบฯ69 พร้อมลงพื้นที่ชมซ้อมรบกรมทหารราบยานเกราะวันนี้
21 เม.ย.2568-นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงคณะเจรจาเกี่ยวกับนโยบายด้านเศรษฐกิจและการปรับขึ้นภาษีกับทางรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งนำโดย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เตรียมเจรจาในวันที่ 23 เม.ย. นี้ ได้มีการปรึกษาหารือด้านการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของทางกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ จากสหรัฐฯ หรือไม่ว่า คงต้องหารือกับนายพิชัย หลังจากเดินทางกลับมาก่อน ซึ่งท่านก็ได้นำข้อมูลที่ได้พูดคุยกับพวกเรา และพูดคุยกับทีมที่ปรึกษา ฯ แล้ว ก็คงจะได้นำไปพูดคุยเจรจาซึ่งกระทรวงกลาโหมไทยและกองทัพสหรัฐไม่มีปัญหาอะไร อย่างไรก็ตามเรายังดำรงความสัมพันธ์ในการเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิด ซึ่งสนับสนุนและดูแลกันอย่างดีมาตลอด
ส่วนข่าวลือที่รัฐบาลอาจสั่งให้ กองทัพอากาศจัดหาเครื่องบินเอฟ 16 ของสหรัฐแทนเครื่องบินกริฟเพ้นท์ ของสวีเดนที่กองทัพอากาศได้คัดเลือกแบบไว้แล้วนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเคยได้พูดคุยกับทางสหรัฐฯ ซึ่งได้มาเสนอโครงการเอฟ 16 ให้ไทยแต่เงื่อนไขสำคัญที่เสนอมาคือการให้เรากู้เงินจากธนาคารของสหรัฐเพื่อนำมาซื้อเอฟ 16 ซึ่งเราไม่เคยทำแบบนั้นในการใช้เงินกู้มาซื้อขณะที่บ้านเรายังมีปัญหาเรื่องอื่นๆอยู่ จึงได้เรียนไปแล้วว่าเงื่อนไขนี้ไม่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมกองทัพอากาศมีเอฟ 16 ประจำการ2 ฝูงบิน กริฟเพ้นท์ 1 ฝูงบิน ส่วนกริฟเพ้นท์อีก 1 ฝูง เรายังไม่ได้ตัดสินใจและยังไม่ได้มีการเสนออะไรทั้งสิ้นเข้าครม. เป็นเพียงความต้องการของกองทัพอากาศ ซึ่งเราก็รับฟัง
ถามถึงแนวคิดการจัดหาเครื่องบินลำเลียง C-130 เพื่อทดแทนของเก่าที่จะประจำการอยู่นั้น รมว.กลาโหมกล่าวว่า คงจะไปคิดล่วงหน้าไม่ได้ รอให้มีความชัดเจนในเรื่องข้อต่อรอง และจำเป็นต้องทำอะไร รวมทั้งสิ่งใดที่เราทำแล้วได้ประโยชน์กับประเทศ ไม่กระทบกระเทือนกับแผนปฏิรูปแห่งชาติของกระทรวงกลาโหม
ซักว่าแผนการจัดซื้อยานเกราะ Stryker จากสหรัฐฯ ของกองทัพบกนั้น รมว.กลาโหมกล่าวว่า ยังไม่เห็นแผนการจัดซื้อชัดเจน รวมถึงการจัดสรรงบประมาณ ประจำปีงบ 2569 ยังไม่แล้วเสร็จ จึงยังไม่ทราบว่าเหล่าทัพใดจะได้รับยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงบ่ายวันนี้ นายภูมิธรรม ได้ตรวจเยี่ยมการฝึกและตรวจสอบเป็นหน่วยกรมทหารราบเฉพาะกิจกองพลทหารราบที่ 11 ณ สนามฝึกทางยุทธวิธีศูนย์การทหารปืนใหญ่ อําเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรีโดยมี พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบกให้การต้อนรับ
การฝึกในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างและตรวจสอบความพร้อมรบของกรมทหารราบเฉพาะกิจกอง พลทหารราบที่ 11 ในด้านขีดความสามารถกําลังพล ยุทโธปกรณ์ หลักนิยม การประกอบกําลังแบบผสมเหล่าและ แผนปฏิบัติการ โดยกองทัพบกได้จัดการฝึกและตรวจสอบเป็นหน่วยกรมทหารราบเฉพาะกิจกองพลทหารราบที่ 11 ในครั้งนี้บนพื้นฐานของกรอบสถานการณ์สมมุติของภัยคุกคามตามแบบ (Conventional Warfare) เพื่อให้กรม ทหารราบเฉพาะกิจกองพลทหารราบที่ 11 มีความพร้อมในการตอบสนองต่อภัยคุกคามตามแบบตามนโยบายของ กองทัพบก กระทรวงกลาโหมและรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กองพลทหารราบที่ 11 เป็นหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกที่ฝากการบังคับบัญชาไว้กับกองทัพภาคที่ 1 โดย เป็นหน่วยกําลังรบหลักระดับกองพลของกองทัพบกที่มีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจในหลากหลายมิติ และมีรถ ยานเกราะล้อยางแบบสไตรเกอร์ (Stryker) ซึ่งเป็นยุทโธปกรณ์หลักที่จัดหาจากประเทศสหรัฐอเมริกาและมีความ สมัย (Modernization) ประจําการอยู่ ณ กรมทหารราบที่ 112