สว.ปฏิมากังวลกระบวนการยุติธรรมไทยกำลังถูกสั่นคลอนหนัก!
14 พ.ย.2567 – นายปฏิมา จีระแพทย์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ปัจจุบันนี้ เราต่างทราบดีว่า การรักษาความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ความมั่นคงของสังคม
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นนี้กำลังถูกสั่นคลอนอย่างน่ากังวล จากหลายเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมที่ยังไม่โปร่งใสและปราศจากการตรวจสอบที่เป็นธรรม เรื่องเช่น กรณีเขากระโดง กรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ หรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการครอบงำพรรคการเมือง ซึ่งเป็นที่สนใจและข้อกังวลของประชาชนอย่างมาก และไม่เพียงเท่านั้น ยังมีข่าวลือถึงการแทรกแซงวุฒิสภา ซึ่งทำให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจว่าผู้แทนของพวกเขาจะสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเป็นกลางหรือไม่
กระบวนการยุติธรรมคือ รากฐานของการปกครองที่เป็นธรรม การที่สังคมจะเจริญเติบโตได้อย่างยั่งยืนจำเป็นต้องมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม หากกระบวนการยุติธรรมถูกบิดเบือน ประชาชนย่อมเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย และอาจเลือกไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย อันเป็นผลมาจากการเห็นตัวอย่างที่ไม่ดีจากผู้ที่อยู่ในอำนาจ การเพิกเฉยต่อกฎหมายไม่ได้เพียงแต่ทำลายความสงบเรียบร้อยของสังคม แต่ยังทำให้เยาวชนรุ่นหลังเห็นว่าความไม่ถูกต้องคือสิ่งที่ยอมรับได้
หนึ่งในกฎหมายสำคัญที่สะท้อนถึงความรับผิดชอบของทุกคนในสังคมไทยคือ มาตรา 119 ของประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งบัญญัติว่า “ผู้ใดกระทำการใด ๆ เพื่อให้ราชอาณาจักรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต” กฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องเอกราชและอธิปไตยของประเทศ หากผู้ที่มีอำนาจหรือผู้ใดพยายามกระทำการใดที่ส่งผลให้เอกราชของประเทศถูกลดทอนหรือมีผลต่อความปลอดภัยของชาติ กฎหมายนี้จะเป็นเครื่องมือในการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของสังคม ทุกคนในสังคมต้องตระหนักถึงบทบาทของตนเองในการปกป้องชาติ และไม่ยินยอมให้ผลประโยชน์ส่วนตนหรือแรงกดดันใด ๆ ทำให้ประเทศชาติตกไปอยู่ภายใต้อิทธิพลหรืออำนาจจากภายนอก
ผมในฐานะสมาชิกวุฒิสภาขอกระตุ้นเตือนรัฐบาล หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ และผู้ที่เกี่ยวข้องให้ตระหนักถึงความรับผิดชอบในการรักษาความเป็นกลางและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และสร้างระบบที่โปร่งใสเพื่อป้องกันการแทรกแซงใด ๆ ที่อาจกระทบต่อความเป็นอิสระของกระบวนการยุติธรรม ขอให้ผู้มีอำนาจยึดมั่นในจริยธรรม ความซื่อสัตย์ และเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทของตน โดยไม่แสดงอคติหรือใช้อำนาจในทางที่ไม่เหมาะสม ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนให้เยาวชนได้เห็นความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎหมายและมีศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม
ขอเรียกร้องสามัญสำนึกในการเคารพกฎหมาย ทุกคนในสังคมต้องเคารพกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เพื่อสร้างสังคมที่มีเสถียรภาพและมั่นคง กฎหมายคือ ข้อตกลงที่คนในสังคมร่วมกันกำหนดขึ้นมาเพื่อปกป้องสิทธิและความยุติธรรมของทุกคน การที่เราเคารพกฎหมายไม่ได้แปลว่าเราต้องยอมรับข้อจำกัดเสมอไป แต่คือการสร้างรากฐานของความมั่นคงในสังคมที่เรามีส่วนร่วมกัน
ตัวอย่างที่ดีสำหรับคนรุ่นหลัง การสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมคือ การสร้างความยั่งยืนให้กับสังคม เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่มีคุณภาพ ผู้นำและผู้ที่มีอำนาจในบ้านเมืองต้องแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบและความซื่อสัตย์ เพราะพวกเขาคือผู้ที่เยาวชนมองดูเป็นตัวอย่าง หากพวกเขาทำผิดพลาด เยาวชนก็อาจเห็นว่าสิ่งนั้นเป็นเรื่องปกติ การสร้างสังคมที่มีมาตรฐานสูงคือการส่งเสริมคุณค่าดี ๆ ให้เกิดขึ้นแก่คนรุ่นหลัง
ในเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่เราจะกลับมาสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม พัฒนาจริยธรรมและจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบ เพื่อความมั่นคงของประเทศและความสงบสุขในสังคม ผมขอให้รัฐบาล หน่วยงานของรัฐ และพรรคการเมืองทั้งหมด ตระหนักถึงหน้าที่นี้ให้มากขึ้น เคารพกฎหมาย เคารพกระบวนการยุติธรรม และเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ประชาชน
ประเทศที่มั่นคงย่อมมีรากฐานจากการที่ประชาชนเคารพและศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ ก็เพื่ออนาคตของลูกหลานของเรา สังคมไทยที่ยั่งยืนคือสังคมที่เคารพในความยุติธรรมและมีผู้นำที่ยึดมั่นในจริยธรรม
The post สว.ปฏิมากังวลกระบวนการยุติธรรมไทยกำลังถูกสั่นคลอนหนัก! appeared first on .