อ้าว…’ทักษิณ’ อยู่ไหน

จะตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต ใครต้องสั่งการ

ฟังรัฐมนตรีรัฐบาลเดียวกัน พูดไปคนละทาง วุ่นวายขายปลาช่อนดีครับ 

นี่ไม่ใช่เส้นผมบังภูเขานะครับ มันเห็นทนโท่กันมานานแล้ว

แต่รัฐบาลไทยหลายชุดที่ผ่านมา ไม่ยอมลงมือทำอะไร

เห็นอยู่ว่าช้างตายทั้งตัว ดันไปเด็ดเอาใบบัวมาปิด

ข้อมูลจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ระบุว่า ช่วงเดือนมีนาคม ๒๕๖๕ ถึงมิถุนายน ๒๕๖๗  มีคนไทยตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์มากกว่า ๕๗๕,๕๐๐ คดี

สร้างความเสียหายรวมกว่า ๖๕,๗๑๕ ล้านบาท

หรือเฉลี่ยวันละ ๘๐ ล้านบาท

เหยื่อส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงวัยทำงานจนถึงผู้สูงอายุ

อายุ ๓๐-๖๐ ปีขึ้นไป สูงถึง ๒๔๘,๘๐๐ คดี           

นี่หมายถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่รายรอบประเทศไทยนะครับ

โดยเฉพาะเมียนมากับกัมพูชา

วันละ ๘๐ ล้านบาท ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นะครับ

สงสัยอยู่ว่าหาก เฮียหลิว “หลิว จงอี้”  (Mr. Liu Zhongyi) ผู้ช่วยรัฐมนตรี กระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ไม่เดินทางมาไทย รัฐบาลมาดามโพย จะกุลีกุจอ หันรีหันขวาง แก้ปัญหาแบบจับต้นชนปลายไม่ถูกหรือไม่

๒ รองนายกรัฐมนตรี โยนลูกกันไปมา ทำให้เห็นว่าปัญหานี้ใหญ่จริงๆ

แค่ตัดไฟมันยากขนาดนั้นเลยหรือ

ปัจจุบันการไฟฟ้า มีรายได้จากการขายไฟฟ้าให้เมียนมา เฉลี่ยปีละ ๘๐๐ ล้านบาท

นับว่ามากพอควร

แต่เมื่อนำมาหักกลบลบหนี้กับความเสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ไฟฟ้าไทย เครือข่ายอินเทอร์เน็ตไทย หลอกคนไทย หลักหลายสิบล้านบาทต่อวัน

ขาดทุนยับครับ!

ถ้าเป็นธุรกิจก็ปิดกิจการไปตั้งแต่ปีมะโว้ 

การไฟฟ้าไทยลากสายไฟขายให้เมียนมา หลักๆ มี ๕ จุด

๑.บ้านพระเจดีย์สามองค์-เมืองพญาตองซู รัฐมอญ มีบริษัท Mya Pan Investment and Manufacturing Company Limited เป็นคู่สัญญา

๒.บ้านเหมืองแดง-เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน บริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี)

๓.สะพานมิตรภาพไทย – พม่า – เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน บริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) จำกัด

๔.สะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ ๒ อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง บริษัท Nyi Naung Oo Company Limited และ Enova Grid Enterprise (Myanmar) Company Limited

และ ๕.บ้านห้วยม่วง-อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง บริษัท Shwe Myint Thaung Yinn Industry & Manufacturing Company Limited (SMTY)

ภาพรวมคือ ท่าขี้เหล็ก เมียวดี และพญาตองซู ยังมีการส่งกระแสไฟฟ้าข้ามประเทศอยู่

ในปี ๒๕๖๖ สถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย ขอให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยแจ้งกับการไฟฟ้าตัดไฟ ๒ จุด

ที่บ้านวังผา อ.แม่ระมาด-บ.ก๊กโก๋ อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง และบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง-อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง

อีกจุดเมื่อปีที่แล้ว ในพื้นที่ อ.เชียงแสน-เมืองพงษ์ จ.ท่าขี้เหล็ก

เหตุผลคือคู่สัญญาผิดนัดชำระค่าไฟฟ้า

แสดงว่าผลประกอบการบริเวณดังกล่าวไม่เข้าเป้า

ตัดไฟมันต้องมีเหตุผลครับ

ที่สำคัญจะตัดจุดไหน เพราะผู้ใช้ไฟฟ้าในเมียนมาไม่ได้มีเจ้าเดียว

พูดง่ายๆ คือ มีทั้งครัวเรือนประชาชน โรงงาน โรงแรม โรงเรียน โรงพยาบาล และสำนักงานทำมาหารับประทานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

จะบอกว่าเป็นความบกพร่องของรัฐบาลเมียนมาที่ปล่อยให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ผุดตามแนวชายแดนเป็นดอกเห็ด ระวังโดนสวนนะครับ

ทำไมเจ้าหน้าที่ของไทยถึงปล่อยปละละเลย ลากสายไฟสายอินเทอร์เน็ตจากฝั่งไทยเข้าไปบริการแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย

พอกันทั้งคู่ครับ

มันสะท้อนให้เห็นว่าภาครัฐของไทยและเมียนมาอ่อนแอ

ปล่อยให้มีการทำธุรกิจสีเทาบริเวณแนวชายแดนของทั้ง ๒ ประเทศมาอย่างยาวนาน จนสีเทามันเข้าไปฝังในตัวเจ้าหน้าที่รัฐ

วานนี้ (๔ กุมภาพันธ์) ตกใจกับคำพูดของ “ภูมิธรรม เวชยชัย”

 “…วันนี้ผมจะสั่งการไปยัง สมช.ให้แจ้ง กฟภ. เรื่องนี้รุนแรง จะต้องไปดำเนินการให้ตัดไฟทันที ไม่ใช่มารอโยกไปมาเหมือนที่เกิดขึ้นและกำลังเป็นปัญหา ให้แจ้ง กฟภ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บังคับหน่วยส่วนไหนหรือผู้รับผิดชอบหน่วยไหน หากไม่ปฏิบัติให้เกิดผลโดยทันที ผมจะยืมตัวมาช่วยราชการ ขอให้ปฏิบัติทันทีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ยืนยันว่าการตัดไฟฟ้าไม่จำเป็นต้องเข้า ครม. …”

สั่งผ่านสื่อ!

มิน่า “อนุทิน ชาญวีรกูล” ถึงย้อนเอา

“…หากมีข้อสั่งการอย่างไรมาก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม แต่ไม่ใช่ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะไปหยุดจ่ายไฟเองได้ทันที ซึ่งไม่ใช่อย่างแน่นอน หากท่านภูมิธรรมเซ็นคำสั่ง เราก็พร้อมที่จะตัดไฟในทันที เพราะถือเป็นการสั่งการที่มีกฎหมายรองรับ…”

จู่ๆ สั่งตัดแบบลูกทุ่งได้หรือครับ

มันต้องมีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน เพราะมันมีเรื่องของความรับผิดชอบที่จะตามมา

ไหน…ใครบอกว่า “นายใหญ่” สนิทกับเมียนมาไม่ใช่หรือ

หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ทำไมเงียบกริบ

“ทักษิณ” อยู่ไหน ไปคุยเรื่องตัดไฟด่วน.

You may also like...

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *