โดนัลด์ ทรัมป์ : บุคคลแห่งปี 2024 ของนิตยสาร Time

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2567 กล่าวว่า การกลับมาสู่ตำแหน่งอันยิ่งใหญ่ได้เป็นวาระที่สองของโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้เขาได้รับการคัดเลือกเป็น “บุคคลแห่งปี 2024” โดยนิตยสารไทม์ (Time)

ทรัมป์ ซึ่งเอาชนะรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ถ่ายรูปขึ้นปกนิตยสารดังกล่าวพร้อมสวมใส่เน็คไทสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ ในโพสท่าทีครุ่นคิด

“สำหรับการกลับมาครั้งประวัติศาสตร์, สำหรับการขับเคลื่อนการปรับโครงสร้างทางการเมืองที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในหนึ่งชั่วอายุคน, สำหรับการปรับเปลี่ยนตำแหน่งประธานาธิบดีของอเมริกา และการเปลี่ยนแปลงบทบาทของอเมริกาในโลก โดนัลด์ ทรัมป์ คือบุคคลแห่งปี 2024 ของนิตยสารไทม์” บทบรรยายระบุ

ปีนี้ ทรัมป์ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงทางธุรกิจ และเกือบจะถูกลอบสังหารถึงสองครั้ง แต่จบปีด้วยเส้นทางกลับเข้าทำเนียบขาวพร้อมกับเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันในทั้งสองสภาของสหรัฐอเมริกา

“เรากำลังเห็นการฟื้นคืนของลัทธิประชานิยม, ความไม่ไว้วางใจที่เพิ่มมากขึ้นในสถาบันที่กำหนดศตวรรษที่ผ่านมา และศรัทธาที่ลดน้อยลงต่อค่านิยมเสรีนิยมที่จะนำไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับคนส่วนใหญ่ ทรัมป์เป็นทั้งตัวแทนและผู้ได้รับผลประโยชน์จากทั้งหมดนี้” นิตยสารดังกล่าวระบุ

รางวัลซึ่งมอบให้เป็นประจำทุกปีถือเป็นการยกย่องบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดแห่งปี โดยผู้ที่เคยชนะที่ผ่านมาได้แก่ เทย์เลอร์ สวิฟต์, โวโลดีมีร์ เซเลนสกี และตัวทรัมป์เองในปี 2559 หลังจากที่เขาเอาชนะฮิลลารี คลินตันได้อย่างขาดลอยในการเลือกตั้งตอนนั้น

อิทธิพลของทรัมป์ที่ครอบงำเหตุการณ์ข่าวต่างๆ ในปี 2567 จะยังคงดำเนินต่อไปเมื่อเขารับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคม

ทรัมป์สัญญาว่าจะขับไล่ผู้อพยพจำนวนมากที่เข้าเมืองอย่างไม่ถูกต้อง และกำหนดกำแพงภาษีศุลกากรจำนวนมากที่คุกคามไม่เพียงแค่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงคู่ค้าที่สำคัญด้วย

เขาแสดงความสงสัยเกี่ยวกับการสนับสนุนยูเครนอย่างต่อเนื่องในการต่อสู้กับการรุกรานของรัสเซีย

การกลับมาของเขาทั้งบนหน้าปกนิตยสาร Time และการเป็นผู้นำของรัฐบาลสหรัฐฯ ถือเป็นสิ่งที่ใครก็คงไม่คาดคิดตลอดไม่กี่ปีที่ผ่านมา

หลังจากผู้สนับสนุนของเขาบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาสหรัฐเพื่อพยายามพลิกกลับชัยชนะในการเลือกตั้งปี 2563 ดูเหมือนว่าพรรครีพับลิกันเตรียมผลักดันคนอื่นๆสู่การเป็นตัวแทนพรรคแทนทรัมป์

มีการดำเนินคดีอาญาจากความพยายามพลิกกลับชัยชนะในการเลือกตั้งที่ตกเป็นของไบเดน และทรัมป์ถูกตัดสินว่ามีความผิดในศาลแพ่งจากข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ อีกทั้งเขายังทำตัวเป็นบุคคลที่สร้างความแตกแยกในวงการการเมืองของสหรัฐฯ และโลกอีกด้วย

แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ขัดขวางเส้นทางสู่ทำเนียบขาวรอบสองของเขา ซึ่งเห็นได้ชัดจากชัยชนะถล่มทลายเหนือกมลา แฮร์ริสในการเลือกตั้งล่าสุด

แฮร์ริสเองก็อยู่ในรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลร่วมกับประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบาม ของเม็กซิโก, นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล และยูเลีย นาวาลนายา นักเศรษฐศาสตร์ชาวรัสเซียและภรรยาม่ายของอเล็กเซ นาวาลนี อดีตผู้นำฝ่ายค้านคู่ปรับของปูติน.

You may also like...

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *