โถ…คุณพ่ออียู

ขอแสดงความยินดีกับฝ่ายค้านด้วย…

ยินดีที่ได้ประเด็นไปซักฟอกนายกฯ แพทองธาร

มีข่าวจากทางฝั่งยุโรปว่า รัฐสภายุโรป ผ่านมติร่วม ประณามไทย โทษฐาน เนรเทศอุยกูร์กลับจีน 

รวมทั้งขัดขวางการแก้ไข ม.๑๑๒

ฝรั่งยุโรปเสนอเล่นงานไทยแรงครับ หวังจะใช้การเจรจา “เอฟทีเอ” บีบให้ไทยตายคามือ

สมาชิกรัฐสภายุโรปโหวตด้วยมติ เห็นชอบ ๔๘๒ เสียง ไม่เห็นชอบ ๕๗ เสียง และงดออกเสียง ๖๘ เสียง

มติที่ว่าระบุดังนี้ครับ…

“….ทางการไทยได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเนรเทศผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์อย่างน้อย ๔๐ คนไปยังจีน ซึ่งพวกเขาเสี่ยงต่อการถูกกักขังโดยพลการ การทรมาน และการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง

ในขณะที่ประเทศที่ปลอดภัยอื่นๆ ได้เสนอที่จะให้ที่อยู่ใหม่แก่ผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ ซึ่งในขณะที่ก่อนการเนรเทศ

บุคคลเหล่านี้ถูกควบคุมตัวในศูนย์ตรวจคนเข้าเมืองของไทยเป็นเวลานานกว่าทศวรรษ ซึ่งมีรายงานว่าชาวอุยกูร์อย่างน้อย ๕ ราย รวมถึงผู้เยาว์ เสียชีวิตเนื่องจากสภาพที่ไร้มนุษยธรรม…”

“…เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการใช้ประโยชน์จากการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีเพื่อกดดันให้ประเทศไทยปฏิรูปกฎหมาย

หยุดการเนรเทศผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์

และให้สัตยาบันอนุสัญญาหลักทั้งหมดขององค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (ILO)…”

“…เรียกร้องให้รัฐบาลไทยให้สิทธิแก่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ในการเข้าถึงผู้ขอลี้ภัยชาวอุยกูร์ที่ถูกกักขังทั้งหมดโดยไม่จำกัด และให้แจ้งข้อมูลสถานะของพวกเขาอย่างโปร่งใส…”

“…เรียกร้องให้ประเทศไทยปฏิรูปกฎหมายสถาบัน และปล่อยตัวนักโทษการเมือง 

ให้ประเทศไทยเสริมสร้างสถาบันต่างๆ ตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชน และให้การนิรโทษกรรมแก่สมาชิกรัฐสภาและนักเคลื่อนไหวทุกคนที่ถูกข่มเหง หรือจำคุกภายใต้กฎหมายที่กดขี่ รวมทั้งจากการถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานหมิ่นสถาบัน…”

“…บทบัญญัติเกี่ยวกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทยภายใต้มาตรา ๑๑๒ ของประมวลกฎหมายอาญา ถือเป็นบทบัญญัติที่เข้มงวดที่สุดในโลก

และไม่สอดคล้องกับพันธกรณีของไทยภายใต้ กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง หรือ ICCPR

ตั้งแต่ปี ๒๐๒๐ นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย มีนักปกป้องสิทธิมนุษยชน และนักข่าวมากกว่า ๑,๙๖๐ คน รวมถึงผู้เยาว์มากกว่า ๒๘๐ คน ถูกฟ้องร้องหรือถูกประณามเนื่องจากความคิดเห็นของพวกเขาภายใต้กฎหมายที่กดขี่ซึ่งจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก…” 

“…ขณะที่นักเคลื่อนไหวที่มีชื่อเสียง เช่น อานนท์ นำภา, มงคล ถิระโคตร และอัญชัญ ปรีเลิศ ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลานานเกินควรในข้อหาวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสันติ โดยบางคนอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง ๕๐ ปี

ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ยุบพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุด

และ สส. ๔๔ คนของพรรคถูกฟ้องร้องในข้อหาเสนอแก้ไขกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งอาจต้องถูกห้ามเล่นการเมืองตลอดชีวิต

ขณะที่ สส.หลายคน เช่น ปิยะรัฐ จงเทพ, รักชนก ศรีนอก และชลธิชา แจ้งเร็ว ถูกฟ้องร้องในข้อหาทำกิจกรรมและแสดงจุดยืนทางการเมือง…”

“…ประเทศไทยเป็นหุ้นส่วนสำคัญของสหภาพยุโรป สนับสนุนให้ประเทศไทยเสริมสร้างสถาบันต่างๆ ให้สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ

เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา ๑๑๒ และกฎหมายที่กดขี่อื่นๆ เพื่อรับประกันสิทธิในการแสดงออกอย่างเสรี การชุมนุมอย่างสงบ และการมีส่วนร่วมทางการเมือง…” 

“…เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี EC) ใช้ประโยชน์จากการเจรจาการค้าเสรี (เอฟทีเอ) เพื่อกดดันให้ประเทศไทยปฏิรูปกฎหมายนี้

รวมถึงปล่อยตัวนักโทษการเมือง

หยุดการเนรเทศผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์

และให้สัตยาบันอนุสัญญาหลักขององค์การแรงงานระหว่างประเทศทั้งหมด เรียกร้องให้ไทยระงับสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับสาธารณรัฐประชาชนจีน และขอให้ส่งมติฉบับนี้ไปยังคณะมนตรีคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี)  และส่งไปยังทางการไทย และจีนด้วย…”

เป็นไงครับ!

ชัดเจนอย่างยิ่ง

ที่จริงรัฐสภายุโรปน่าจะแนบเอกสาร ของประเทศที่เปิดรับชาวอุยกูร์กลุ่มที่ลี้ภัยมาด้วย ไทยจะได้ไม่มีที่ยืนในแผนที่โลก

ก็เสียดายครับ ที่ขาดส่วนสำคัญนี้ไป

มีข่าวเก่าเมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๖ ระบุดังนี้ครับ

สหภาพยุโรป (EU) บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับผู้อพยพและการลี้ภัยฉบับใหม่ ภายใต้ชื่อ “New Pact on Migration and Asylum” โดยมีผลบังคับใช้ในปี ๒๕๖๗ เพื่อเป้าหมายจำกัดจำนวนผู้อพยพที่ต้องการเดินทางเข้า EU

และเป็นการแบ่งความรับผิดชอบภายในภูมิภาค

เนื่องจากอิตาลี กรีซ และยุโรปตะวันออก ซึ่งเป็นด่านหน้ารับผู้อพยพ ไม่เต็มใจรับผู้อพยพที่ส่วนใหญ่เดินทางมาจากภูมิภาคแอฟริกาผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวประเทศที่ไม่ได้เป็นด่านหน้ารับผู้อพยพจะต้องเลือกระหว่างรับส่วนแบ่งผู้ขอลี้ภัย ๓๐,๐๐๐ คน หรือจ่ายเงินอุดหนุนเข้ากองทุน EU อย่างน้อยในอัตรา ๒๐,๐๐๐ ยูโรต่อคน

นอกจากนี้ ภายใต้ข้อตกลงใหม่ การยื่นขอลี้ภัยจะยากขึ้นและมีโอกาสสำเร็จต่ำ รวมถึงเปิดโอกาสให้สามารถกักตัวผู้อพยพไว้บริเวณชายแดน

นี่คือพฤติกรรมของบรรดาเทวดาในยุโรป เห็นประเทศที่ด้อยกว่าเป็นแค่ที่ทิ้งขยะ อ้างสิทธิมนุษยชนเพื่อทำลายประเทศที่กระด้างกระเดื่องไม่ยอมเดินตามก้น

ประเด็น ม.๑๑๒ มาถึงจุดที่ สหภาพยุโรปประกาศเป็นศัตรูกับคนไทย

ไม่ใช่แค่แก้ ม.๑๑๒ แต่ให้ยกเลิก

คิดว่าตัวเองเป็นใคร

ในอดีตยุโรปหิวกระหายสงคราม และทรัพยากร ออกล่าอาณานิคม มองคนผิวดำไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นทาส

มองชาวเอเชียเป็นแค่แรงงาน

ฝากรอยแผลด้านมนุษยชนมาจวบจนถึงปัจจุบันนี้

เคยเรียงหน้าออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการกันบ้างหรือเปล่า.

The post โถ…คุณพ่ออียู appeared first on .

You may also like...

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *