“พล.อ.สวัสดิ์” คาด คนไทยสบายใจ ปมแก้ปัญหาชายแดน-ปกป้องผลประโยชน์ หลัง “แพทองธาร” ถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ 1 กรกฎาคม 2568 – พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีมติศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของสว. กรณีถอดถอนน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ออกจากตำแหน่งและสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ว่า เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาในรายละเอียดเชิงลึกที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ตนมองว่าตามคำร้องของคณะสว. นั้นความผิดมีความชัดเจน และไม่ต้องยื่นข้อมูลใดๆ เพิ่มเติมไปยังศาลรัฐธรรมนูญอีก เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวจะส่งผลต่อการแก้ปัญหาชายแดนอย่างไรหรือไม่ พล.อ.สวัสดิ์ กล่าวว่า เชื่อว่าคนไทยจะสบายใจขึ้น...

1 ก.ค. 2568 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ในหัวข้อ  ภูมิคุ้มกันประชาธิปไตย ป้องกันรัฐประหาร คือยุบสภา-ลาออก มีหลายฝ่ายวิเคราะห์ถึงทางออกของสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ว่า ทางออกของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี อาจจะมีทางออกอยู่3ทาง คือ 1.นายกรัฐมนตรีลาออก เพื่อสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ 2.นายกรัฐมนตรียุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชนเพื่อเลือกตั้งครั้งใหม่ 3.เมื่อการเมืองถึงทางตัน นายกรัฐมนตรีไม่ยอมยุบสภา ไม่ยอมลาออก จะทำงานต่อไป มีมวลชนประท้วงกัน บ้านเมืองถึงทางตัน อาจจะมีอำนาจนอกระบบเข้ามาแทรกแซง ซึ่งทั้ง3แนวทางนี้ มีเพียง2แนวทางเท่านั้น ที่เป็นไปตามกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ...

หนักใจ! คือคำพูดของประธานศาลรัฐธรรมนูญ “นครินทร์ เมฆไตรรัตน์” หนักใจกับคดีที่สมาชิกวุฒิสภาจำนวน ๓๖ คน ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ ถอดถอน “แพทองธาร ชินวัตร” ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำไมต้องหนักใจ? ก็คงตอบคำถามแทนท่านไม่ได้หรอกครับ แต่คนไทยจำนวนมากก็รู้สึกหนักใจกับการเป็นนายกรัฐมนตรีของ “แพทองธาร” มานานพอควรแล้ว หนักใจเพราะ ไร้ความสามารถอย่างสิ้นเชิง ประเทศอยู่ในภาวะวิกฤตทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การต่างประเทศ แต่เรามีนายกรัฐมนตรีที่ไม่เอาไหน ไร้ความรู้ ไร้ภาวะผู้นำ มีคุณสมบัติอย่างเดียวที่ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเลือกเป็นนายกฯ คือเป็นลูกสาว “ทักษิณ” วันนี้ (๑ กรกฎาคม) ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาคดีถอดถอนนายกฯ...

หลังจากที่  “นายใหญ่”  ทักษิณ   ชินวัตร ประกาศริบกระทรวงมหาดไทย คืนจากพรรคภูมิใจไทย  ภายใต้การนำของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคสีน้ำเงิน “นายกฯอิ๊งค์”  “แพทองธาร  ชินวัตร   นายกฯ และ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย  กลืนไม่เข้าคายไม่ออก กล้ำกลืนรับคำสั่ง “พ่อนายกฯ” สั่งการให้ยื่นข้อเสนอ ให้กระทรวงสาธารณสุข แทน กระทรวงมหาดไทย  แต่ได้รับคำตอบ คือ พรรคภูมิใจไทย พร้อมเป็นฝ่ายค้าน ตามมาด้วยแถลงการณ์ถอนตัวจากรัฐบาล  สำทับด้วยให้รัฐมนตรีสีน้ำเงิน 8คน ลาออก  ถือเป็นการประกาศสิ้นสุดความเป็นพรรคร่วมรัฐบาลของพรรคภูมิใจไทย...

การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เดินหน้าจัดการแข่งขันกีฬาเปตองการกุศล “ท่าเรือโอเพ่น” ประจำปี 2568 พร้อมอัญเชิญถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำหรับมอบให้แก่ผู้ชนะเลิศในประเภททีมชาย ทีมหญิง และทีมเยาวชน ซึ่งนับเป็นการแข่งขันรายการเดียวในประเทศไทยที่ได้รับถ้วยพระราชทานจากทั้งสามพระองค์ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. เป็นประธานในพิธีอัญเชิญถ้วยพระราชทานฯ พร้อมด้วยผู้บริหาร กทท. พนักงาน กทท. คณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ จิตอาสา 904 และสื่อมวลชน ร่วมในพิธีอัญเชิญถ้วยพระราชทานในบริเวณพื้นที่โดยรอบท่าเรือกรุงเทพ...

30 มิ.ย. 2568 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปและข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ลาออกก็กลัวลุงตู่ ยุบสภาก็กลัวพรรคส้ม หลังจากกรณีคลิปหลุดของสมเด็จฮุนเซนกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีการพูดคุยกัน ทำให้เกิดกระแสเรียกร้องความรับผิดชอบทางการเมือง จากนางสาวแพทองธารสูงมาก จนทำให้พรรคร่วมรัฐบาลต้องประชุมทบทวนท่าที การเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคที่เหลืออยู่คือ พรรครวมใจสร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา จนมีมติที่จะสนับสนุนรัฐบาลของนางสาวแพทองธารต่อไป เหตุผลลึกๆ ก็คือ ถ้าหากพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว อาจทำให้นางสาวแพทองธาร ประกาศยุบสภา ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ พรรคร่วมรัฐบาลต่างก็ประเมินแล้วว่า จะแพ้พรรคประชาชน และจะแพ้มากกว่าการเลือกตั้งปี 2566 เสียอีก...

กว่าแสนคนที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาแค่เริ่มต้นครับ… ความไม่พอใจของประชาชนต่อพฤติกรรมอันน่าขยะแขยงของ “แพทองธาร ชินวัตร” จากคลิปลับ “ฮุน เซน” มาถึงจุดที่พร้อมระเบิดได้ตลอดเวลา แต่… การเมืองไทยจะเป็นอย่างไรหลังจากนี้ ปัจจัยหลักคือ “รุ่นคน” ครับ ประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมแสดงพลังกับ คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ส่วนใหญ่คือวัยกลางคน และผู้สูงอายุ วัยรุ่น คนรุ่นใหม่ มีน้อยมาก แน่นอนครับการชุมนุมครั้งนี้ยังถูกมองว่าเป็นความเคลื่อนไหวของกลุ่มอนุรักษนิยม ที่ผูกติดกับขนบเก่าๆ ไร้ความคิดที่ก้าวหน้า มีความต้องการแค่ไล่ทักษิณ หยามว่าคิดอะไรไม่เป็น นอกจากเชิญทหารทำรัฐประหาร นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมมวลชนพรรคส้มถึงไม่ร่วมชุมนุมในครั้งนี้ด้วย การกวักมือเรียกทหารมายึดอำนาจไปจากรัฐบาลแพทองธาร ไม่ใช่สาระสำคัญของการชุมนุมในครั้งนี้เลย “สนธิ ลิ้มทองกุล” ยุให้รัฐประหารอย่างนั้นหรือ เพราะโซเชียลในหมู่ส้มและรัฐบาลเอาไปพูดกันเยอะ ไปดูชัดๆ อีกทีครับ...

29 มิ.ย.2568-นายกษิต ภิรมย์ อดีตรมว.ต่างประเทศ โพสต์เฟซบุ๊ก Kasit Piromya ระบุว่า สังเกตดูว่าผู้นำพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา สนใจแต่เรื่องของตนเอง คือการมีตำแหน่งเป็นเสนาบดีกันต่อไป โดยไม่คำนึงถึงเรื่องความถูกต้องชอบธรรม ไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ ไม่คำนึงถึงการอยู่ยงคงกะพันของพรรคของตน และไม่ให้ราคาใดๆ ต่อสมาชิกของพรรคของตน ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าอดสู ฉะนั้นการแก้ไขปรับปรุงจึงเป็นเรื่องที่สมาชิกพรรคแต่ละพรรคต้องออกมาแสดงตนเพื่อนำพรรคกลับมาสู่ที่ตั้ง ที่พึงควรเป็นและเหมาะสม The post ‘กษิต’ อดสู 3 ผู้นำพรรคร่วมรัฐบาล สนใจตำแหน่งเสนาบดี เมินศักดิ์ศรี-ความถูกต้องชอบธรรม appeared first on .

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี รองประธานสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (เอซีซี), ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ดำเนินการเก็บตัวฝึกซ้อมนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยชุดเตรียมสู้ศึกมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม ศกนี้ มีความแข็งแกร่งและสมรรถภาพทางร่างกายพัฒนาขึ้นเป็นที่น่าพอใจ หลังจากที่เก็บตัวฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง 6 เดือนเต็ม ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา พลเอกเดชา กล่าวว่า จากผลการทดสอบสมรรถภาพนักกีฬาทีมชาติไทยทุกชุดตามนโยบายของการกีฬาแห่งประเทศไทย ทั้งประเภทถนน, เสือภูเขา, ลู่ และบีเอ็มเอ็กซ์ ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นไปตามเป้าหมาย โดยการตรวจสมรรถภาพครั้งล่าสุด...

“จตุพร” ปราศรัยเดือดอนุสาวรีย์ชัยฯ ซัดนายกฯ-ครม. ขายชาติ พายเรือให้โจรนั่ง ประกาศไม่ยอมเสียดินแดนแม้ตารางนิ้วในรัชกาลที่ 10 แฉแซ่บเหตุทักษิณ-ฮุนเซนทะเลาะกันเกิดจากแหล่งพลังงาน 29 มิ.ย. 2568 – เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.68 เวลา 20.45 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ปราศรัยในกิจกรรมของกลุ่มรวมพลังปกป้องอธิปไตยไทย โดยก่อนการปราศรัยได้อ่านกลอนว่า”รวมพลังหลั่งไหลดั่งสายธาร ปกป้องบ้านปกป้องเมืองของเราไว้ แผ่นดินไทยอธิปไตยคือหัวใจ ไม่ยอมให้มันผู้ใดรุกรานเรา ” เพื่อจะบอกเป็นปฏิญญาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิว่าในแผ่นดินรัชกาลที่ 10 เราไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว อธิบายเรื่องการเสียดินแดนมันก็เจ็บใจทุกครั้ง ประวัติศาสตร์ในอดีตที่เราแพ้พม่าเพราะเราไม่ยอมจัดการคนขายชาติก่อน วันนี้เรามีประสบการณ์แล้วจัดการคนขายชาติก่อน ถ้ากรุงศรีอยุธยาจับคนขายชาติประหารก่อนกรุงศรีก็จะไม่แตก...